จากกรณี นางสรารัตน์ หรือ แอม รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาลักทรัพย์ ได้กระทำความผิดนำสารเคมีไซยาไนด์มาใช้วางยาจนปรากฏมีผู้เสียชีวิต และผู้ที่คาดว่าเสียชีวิตจากไซยาไนด์ดังกล่าวกว่า 13 ราย เนื่องด้วยหวังเอาทรัพย์สินและฆ่าล้างหนี้จากการทำวงแชร์ รวมถึงขณะนี้ เจ้าตัวยังอยู่ระหว่างการฝากขังผัดแรกของพนักงานสอบสวนภายในทัณฑสถานหญิงกลาง ตามที่มีการรายงานข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 30 เม.ย. พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจ กองบัญชาการตำรวจนครบาลในฐานะหัวหน้ารวบรวมสำนวนคดีแอม สรารัตน์ เปิดเผยว่า สำหรับการสอบปากคำเพิ่มเติมกับ พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.สวนผึ้ง อดีตสามีแอม ทราบว่าจะเป็นในส่วนของคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 เป็นผู้ดำเนินการ ส่วนประเด็นที่จะใช้สอบถามคาดว่าเกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจยึดมา และอาจจะมีประเด็นอื่นๆ เพิ่มเติมเนื่องจากยิ่งเจ้าหน้าที่สอบสวน ก็พบว่าสามารถแตกได้อีกหลายประเด็น นอกจากนี้ ส่วนเรื่องการครอบครองสารเคมีไซยาไนด์ของแอม ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบโดยต้องสืบเสาะให้ได้ข้อเท็จจริงว่าแอมได้มาอย่างไร

พล.ต.ต.นำเกียรติ ยังยืนยันว่า ขณะนี้ นายกอล์ฟ (ลูกน้องนายแด้) ยังคงสถานะพยาน เพราะยังไม่มีพยานหลักฐานใดไปยืนยันได้ว่านายกอล์ฟไปมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดร่วมกับแอม อีกทั้งคำให้การของนายกอล์ฟส่วนใหญ่มีพยานบุคคลยืนยันรองรับในสิ่งที่พูด จึงจำเป็นต้องเชื่อ รวมถึงจนถึงตอนนี้ยังไม่มีอะไรมาหักล้างในสิ่งที่นายกอล์ฟให้การ อย่างไรก็ตาม ในวันจันทร์ที่ 1 พ.ค.นี้ เวลาประมาณ 10.00 น. ที่สโมสรตำรวจ คณะพนักงานสอบสวนได้นัดหมายให้ นางลัดดา ขาวอินทร์ อายุ 64 ปี แม่ของ น.ส.มณฑาทิพย์ ขาวอินทร์ หรือทราย อายุ 37 ปี ที่เสียชีวิตไปเมื่อ7 ปีที่แล้ว ในพื้นที่กรุงเทพฯ เข้าให้ข้อมูล เพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการสืบสวนว่า น.ส.มณฑาทิพย์ หรือ ทราย มีความสัมพันธ์ หรือมีความเชื่อมโยงกับแอมอย่างไรบ้าง ส่วนของผู้เสียชีวิตรายอื่นๆ เราได้มีการมอบหมายให้ตำรวจแต่ละท้องที่ดำเนินการ ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าในการคลี่คลายคดี แอม-สรารัตน์ คณะพนักงานสอบสวนไม่พบอุปสรรคแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กรณีของ น.ส.มณฑาทิพย์ หรือ ทราย ได้เสียชีวิตไปเมื่อ 7 ปีที่แล้ว และคาดว่าอาจเป็นเหยื่อรายแรก โดยมีการระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่า เป็นการเสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน และทรายยังมีความสัมพันธ์เป็นเพื่อนสนิทกับแอม ทางด้านแม่ของทรายยังระบุว่า ทรายใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพฯ มีความสนิทสนมกับแอม ถือเป็นเพื่อนสนิทกัน เวลาทำบุญก็จะมีแอมไปด้วย โดยตลอดระยะเวลาที่คบหาเป็นเพื่อนกันกับแอม ทรายจะคอยช่วยเหลือแอมในทุกๆ เรื่องโดยเฉพาะเรื่องเงิน ซึ่งแอมก็มักจะยืมเงินทรายตลอดเวลา ครั้งละประมาณ 50,000 บาทขึ้นไป แต่ไม่เคยมีการใช้คืน ซึ่งทรายก็ไม่เคยบ่นหรือทวงเงิน ล่าสุดก่อนที่ทรายจะเสียชีวิต ทรายได้ไปพักอยู่กับสามีที่ต่างประเทศประมาณ 3 ปี จากนั้นเมื่อเดินทางกลับมาที่ประเทศไทย แอมก็อาสาไปรับทรายที่สนามบินและมาส่งบ้านในช่วงเช้ามืด จากนั้นไม่นานแม่ของทรายก็มาทราบข่าวว่าลูกสาวเสียชีวิต จึงต้องจัดการเรื่องศพทราย 

“แอม ไซยาไนด์”โดนหมายจับเพิ่ม ตร.พบหลักฐานเอี่ยววางยา “เจ๊น้อยผัก”

ขณะที่ชนวนเหตุสำคัญ คือ ตั้งแต่ทรายเสียชีวิตจนกระทั่งฌาปนกิจ แม่ของทรายยืนยันว่า แอมไม่เคยมาร่วมงานบำเพ็ญกุศล หรือเข้ามาแสดงความเสียใจ อีกทั้งภายหลังจากการฌาปนกิจศพทรายเสร็จสิ้น แม่ของทรายเคยโทรศัพท์หาแอม โดยสอบถามเกี่ยวกับทรัพย์สินของทราย แต่กลับถูกแอมพูดจาไม่ดีใส่และตัดสายทิ้ง พร้อมกับอ้างว่า สามีของทรายได้บอกให้แอมนำทรัพย์สินไปประมูลขาย เป็นเหตุให้แม่ของทรายยังคงค้างคาใจต่อสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาวมาตลอดระยะเวลา 7 ปี.