จากกรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปภาพความวังเวงในวัดแห่งหนึ่งที่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ พร้อมบรรยายถึงการเข้ากักตักตัว 14 วัน หลังรักษาโรคโควิด-19 หายแล้ว โดยเจ้าหน้าฝ่ายงานเกี่ยวข้อง ให้มากักตัวยังศาลาที่พักศพ ภายในวัดดังกล่าว แล้วยังต้องอยู่ลำพังเพียงคนเดียว ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่ วัดบ้านใหม่สระขุด ต.ทุ่งกระเต็น อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ พบว่ามีคนมากักตัวที่ศาลาพักศพจริง ภายหลังทราบชื่อ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า ได้รักษาโรคโควิด-19 จนหายดีแล้วแต่หมอให้มากักตัวอยู่ที่บ้านอีก 14 วัน ปรากฏว่าที่บ้านภรรยาคับแคบ ทั้งยังมีเด็กและผู้สูงวัยอาศัยอยู่ด้วย จึงประสานให้เจ้าหน้าที่ อบต.ทุ่งกระเต็น เป็นคนจัดหาสถานที่กักตัวให้ จนกระทั่งวานนี้ ตนก็ถูกส่งมากักตัวที่นี่ แค่มาเห็นสถานที่ตนก็อึ้งแล้ว ที่พักศพอยู่ติดกับเมรุเผาศพ กลางวันว่าวังเวงแล้ว กลางคืนยิ่งวังเวงมากกว่า มีแต่เสียงจิ้งหรีดเรไร ด้วยความกลัวจะเจอดี จึงพยายามถ่ายคลิปเอาไว้ ฝืนใจจะนอนก็นอนไม่หลับ จนกระทั่งตี 4 จะขับรถออกไปไหนก็ไม่ได้กลัวจะผิดกฎหมาย

ด้าน นายบุญธรรม นนตานอก อายุ 65 ปี นายก อบต.ทุ่งกระเต็น กล่าวว่า สาเหตุที่เอามากักตัวไว้ที่นี่ เพราะเป็นเหตุเร่งด่วน ไม่สามารถไปกักตัวไว้ที่บ้านได้เพราะมีสมาชิกครอบครัวหลายคน ประกอบกับสภาพบ้านไม่เอื้ออำนวย เพราะหลังเล็กและคับแคบ โดยหลังจากนี้จะได้หาสถานที่กักตัวให้ใหม่ต่อไป.