เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง หลังจากเพจ “เส้นด้าย – Zendai” นำเอาเรื่องราวของอดีตนักโทษประหารคดียาเสพติดมาเผยแพร่ โดยข้อความดังกล่าวระบุว่า “…มะห์มุด วัย 41 คือ #อาสาเส้นด้าย ในทีม #เส้นด้ายเหยี่ยวราตรี แต่ใครจะเชื่อว่า มะห์มุดคนนี้คือคนเดียวกับนักโทษประหารคดีค้ายาเสพติดเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ตอนนี้ตี 1 แล้ว แต่มะห์มุดและเพื่อน ๆ ในทีมก็กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ เคสยาก ๆ หลาย ๆ เคสของ #เส้นด้าย มะห์มุดก็เป็นกำลังหลักของเราอยู่เสมอ อย่างเคสลุงริน โชเฟอร์แท็กซี่ เขาก็เป็นคนเข้าไปช่วยเหลือคุณลุงถึงห้อง คอยอุ้ม คอยหิ้วแกลงมา

แต่ในวัย 19 ปี มะห์มุด คือวัยรุ่นคนหนึ่งที่เติบโตในชุมชนแออัดบ้านครัวเหนือ ย่านราชเทวี วันนั้นด้วยแรงกดดันจากสังคมที่เหลื่อมล้ำทำให้เขาเลือกยกระดับความเป็นอยู่ให้ตัวเองด้วยวิธีการที่ผิด มะห์มุดในวันนั้น ขับบีเอ็ม บิ๊กโนส 525 มีเงินใช้ไม่ขาดมือ แต่ 3 ปีผ่านไป มะห์มุดในวัย 22 ก็เกม โดนจับกุมในคดีค้าสิ่งเสพติด พร้อมของกลาง ยาอี 4,000 เม็ด ยาเค 3,000 ขวด ไอซ์ 3 ขีด ไฟว์ไฟว์ 1,000 แผง โทษถึงประหารชีวิต!

สิ่งที่มาห์มุดโดนในชั้นสอบสวน ตำรวจที่จับกุมมะห์มุดทำ “การขยายผล” ด้วยทุกวิธี ทั้งการทุบตี ซ้อม หรือแม้แต่การใช้ถุงพลาสติกครอบหัวอย่างที่มาวินโดนมาแล้ว


มะห์มุดบอกว่า โชคดีเหลือเกินที่รอดชีวิตจากสิ่งที่ตำรวจฮิตทำในช่วงนั้นคือ “ฆ่าตัดตอน” ในชั้นศาล มะห์มุดรับสารภาพ ศาลลดโทษลงกึ่งหนึ่งเหลือจำคุกตลอดชีวิต และการที่มะห์มุดประพฤติตัวเป็นนักโทษชั้นเยี่ยมมา 10 ปี โทษจากตลอดชีวิตลดลง จนกลายเป็นเวลา15 ปี 10 เดือน 12 วัน

ชีวิตในคุกตลอด 15 ปี มะห์มุดมีตรวนล่ามสองขาอยู่ตลอดเวลากว่า 2 ปี 8 เดือน บางครั้งโดนทำโทษด้วยการขังคุกมืด ห้องที่ไม่มีแสงเลยกับส้วมเล็กๆเพื่อขับถ่ายที่ทำให้เขาแทบเสียสติจนบางครั้งเขาต้องขอผู้คุมเพื่อพบจิตแพทย์ วันก่อนพ้นโทษ เขาตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ 15 ปีของการขาดอิสรภาพ มันได้สอนอะไรมะห์มุดหลายอย่าง “ผมยังจำลมหายใจนอกเรือนจำครั้งแรกได้ มันสุดยอดมาก ๆ เชื่อมั้ย ผมไม่กล้าข้ามถนนนะ กลัวว่าถ้าข้ามถนนไป แล้วถูกรถชนตาย ผมจะไม่ได้สูดลมหายใจแบบนี้อีก”

ปัจจุบัน มะมุดห์ประกอบอาชีพสุจริต ช่วยที่บ้านส่งน้ำผลไม้ขาย รายได้วันละ 500-1,000 บาท ก็แฮปปี้มากๆแล้ว ทุกวันนี้ นอกจากการทำงานปกติ มะห์มุดใช้เวลาว่างมาร่วมกับเส้นด้ายสองเดือนแล้ว เขาช่วยชีวิตผู้ป่วยโควิดไปได้กว่า 40 คน ทุกชีวิตที่มะมุดห์ช่วย เขารู้สึกปลื้มใจ มีความสุข มะห์มุดไม่ได้แค่ปลดความทุกข์ให้แก่ผู้ป่วย แต่มะห์มุดปลดทุกข์ในใจของตัวเองด้วย “ชีวิต​ผมหลังพ้นโทษเหมือนได้เกิดใหม่ ผมเลยต้องทำในสิ่งที่ผมได้รับ​ นั่นคือการพยายามช่วยชีวิต​ผู้ป่วยให้เค้าได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง”

เราไม่รู้ว่าโลกข้างนอกนั้นมี “มะห์มุด” อีกกี่คน คนที่กระทำความผิดไปแล้ว สำนึกได้ และรอโอกาสที่จะใช้ชีวิตเพื่อชดเชยสิ่งที่ผิดพลาด หากเขาตายจากกระบวนการนอกกฎหมายในวันนั้น เราคงไม่มีมะห์มุดที่มุ่งมั่นจะช่วยชีวิตผู้อื่นในวันนี้ วันเสาร์นี้ มะห์มุดจะนำทีมเส้นด้ายนำถังออกซิเจนและเครื่องผลิตออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยเหลือจำนวนมาก ไปช่วยนักโทษที่ติดเชื้อในเรือนจำนครสวรรค์ที่เกิดการระบาดของโควิดอย่างหนัก คาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อกว่า 2,000 คน #ได้ที่ไม่ใช้เส้น

ภายหลังจากข้อความดังกล่าวเผยแพร่ออกไปปรากฏว่า มีชาวเน็ตเข้ามาให้กำลังใจทีมงานมากกว่า 400 ข้อความ รวมทั้งแชร์เรื่องราวออกไปมากกว่า 1.1 พันครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจากเพจ “เส้นด้าย – Zendai”