สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ว่า กูเกิลกำลังดำเนินการเพื่อไล่ตามคู่แข่งอย่างไมโครซอฟต์ ซึ่งเร่งรวมองค์ประกอบที่เหมือนแชตจีพีที ไว้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของบริษัท รวมถึงเสิร์ชเอนจิ้น “บิง” ท่ามกลางความกลัวเกี่ยวกับภัยคุกคามของเทคโนโลยีต่อสังคม รวมถึงผลกระทบของการกระจายข้อมูลที่บิดเบือน และความเป็นไปได้ของการทำให้งานทุกประเภทล้าสมัย
นางเคธี เอ็ดเวิร์ดส์ จากกูเกิล เสิร์ช กล่าวว่า ประสบการณ์ใหม่นี้จะคล้ายคลึงกับการค้นหาที่ “อัดแน่น” โดยแชตบอตสำหรับการสนทนา ขณะที่ผู้บริหารคนอื่นๆ ของกูเกิล อธิบายถึงวิธีการรวมเอไอ สำหรับการสร้างคอนเทนต์เข้ากับจีเมล, การแก้ไขรูปภาพ, เครื่องมือทำงานออนไลน์ และอื่นๆ
We’re also introducing Bard in Japanese and Korean, and we’re on track to support the top 40 languages soon. #GoogleIO pic.twitter.com/a1Ws5jvQvw
— Google (@Google) May 10, 2023
ด้าน นายแจ็ค ครอว์ชิก ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์ ระบุเสริมว่า ความพยายามด้านเอไอของบริษัท จะดำเนินการในลักษณะที่ “ชัดเจน และมีความรับผิดชอบ”
ทั้งนี้ การขยายการใช้งานเอไอของกูเกิล จะทำให้ผู้ใช้งานทั่วโลกสามารถตอบโต้กับ “บาร์ด” ด้วยภาษาอังกฤษ หลังจากมีการทดสอบเป็นเวลาหลายเดือนในสหรัฐ และสหราชอาณาจักร ซึ่งบาร์ดจะได้รับการแก้ไขเพื่อรองรับภาษาอื่นๆ อีก 40 ภาษา ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
สำหรับเทคโนโลยีใหม่ของกูเกิล บาร์ดจะเปิดใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การกรอกข้อความเพื่อช่วยร่างอีเมล และการเสนอแนะไอเดียสำหรับงานศิลปะ โดยพิจารณาจากรูปภาพที่มีอยู่
อนึ่ง การประกาศของกูเกิลมีขึ้น 1 สัปดาห์หลังจากไมโครซอฟต์ขยายการเข้าถึงสาธารณะไปยังโปรแกรมเอไอ สำหรับการสร้างคอนเทนต์ ซึ่งขับเคลื่อนโดยโมเดลที่สร้างโดยบริษัท โอเพนเอไอ เจ้าของแชตจีพีที
“นี่อาจเป็นช่วงเวลาสำคัญในการต่อสู้ด้านเอไอ โดยกูเกิล กับไมโครซอฟต์ จะแข่งขันกับแบบตัวต่อตัว เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด” นายแดน ไอเวส กล่าวในบันทึกถึงนักลงทุน.
เครดิตภาพ : Google