จากกรณีที่นายสมควร สีทองคำ อายุ 53 ปี และนางจันที สีทองคำ อายุ 53 ปี สองสามีภรรยาซึ่งเป็นผู้พิการ อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 1 ต.ป่าเลา อ.เมืองเพชรบูรณ์ ได้ถูกมิจฉาชีพติดต่อทางเฟซบุ๊กและทางไลน์ แล้วหลอกให้โอนเงินเพื่อซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าราคาถูก สูญเงินไปจำนวน 30,244 บาท โดยที่ไม่ได้รับเครื่องใช้ไฟฟ้าแม้แต่ชิ้นเดียว อีกทั้งมิจฉาชีพยังบอกตามตรงหลังจากได้รับเงินแล้วว่า สองสามีภรรยาถูกหลอกโกงเงินแล้ว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

คืบหน้าเมื่อวันที่ 3 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของสองสามีภรรยาอีกครั้ง โดยทั้งสองเปิดเผยว่า ตอนที่ตนทวงถามเพื่อขอเงินคืนนั้น มิจฉาชีพรายดังกล่าว ได้อ้างชื่อบุคคลต่างๆ เช่น มีเพื่อนเป็นทนายหลายคน รวมทั้งทนายตั้ม รู้จักกับ พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร น้องสาวเป็นเพื่อนกับ ผกก.โจ้ รวมทั้งยังท้าทายให้โทรฯ​ ไปสอบถาม กับ นายกาหลง ทรัพย์สะอาด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายปฏิบัติการ เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีการข่มขู่ทำให้ตนรู้สึกหวาดกลัว เพราะอยู่ลำพังกันสองสามีภรรยา ตอนนี้รู้สึกเครียดมาก หมดกำลังใจในการทำงาน ตนสงสารภรรยาเป็นอย่างมาก เพราะกว่าจะเก็บเงินได้แต่ละบาท ต้องทำงานรับจ้างเย็บซ่อมเสื้อผ้า สานกระเป๋าขาย ได้เงินก้อนหนึ่งหวังว่าจะซื้อตู้เย็นดีๆ ซื้อโน้ตบุ๊กให้หลาน แต่ก็ต้องมาถูกพวกนี้หลอกเอาเงินไปจนหมด

“อยากจะฝากถามมิจฉาชีพว่า ไม่รู้สึกละอายใจและไม่อายบ้างหรือ ที่มาหลอกเอาเงินคนพิการ ที่อุตส่าห์ทำงานเก็บเล็กผสมน้อยมาเกือบทั้งชีวิต พวกคุณทำให้สังคมเป็นสังคมที่อยู่ยาก ฝากเตือนประชาชนทั่วไปอย่าได้หลงเชื่อพวกนี้” สองสามีภรรยา กล่าว

ผัวเมียพิการเก็บเงินมาทั้งชีวิต เจอ18มงกุฎหลอกให้ซื้อของ แถมข่มขู่รู้จักทนาย-ผกก.โจ้

สองสามีภรรยา กล่าวอีกว่า หลังจากมีการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนแล้ว ปรากฏว่าได้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาสอบถามไม่ว่าจะเป็นไปรษณีย์ที่มาแจ้งว่า จะขอตรวจสอบก่อนว่า เป็นพนักงานของไปรษณีย์ไทย และมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ทางด้านจังหวัดเพชรบูรณ์ ก็ได้มอบหมายให้ อบต.ป่าเลา เข้ามาสอบถามข้อมูล พร้อมหาทางช่วยเหลือเยียวยา รวมทั้งได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากส่วนกลาง ติดต่อและจะเดินทางมาสอบสวนถึงที่บ้านภายในวันนี้

ด้าน พ.ต.อ.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าชื่อบัญชี น.ส.สุภาพ วงศ์จันทร์ นั้น จากการตรวจสอบทะเบียนราษฎร์พบว่า มีชื่อซ้ำกันถึง 4 คน โดยอยู่ในจังหวัดระยอง 2 คน และอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีก 2 คน ขณะนี้ทางธนาคารกรุงศรีฯ สาขาเพชรบูรณ์ ได้แจ้งไปยังสำนักงานใหญ่ให้ตรวจสอบว่า เลขที่บัญชีที่ผู้เสียหายโอนไปนั้น เป็น น.ส.สุภาพ วงศ์จันทร์ คนไหน ขณะนี้รอสำนักงานใหญ่แจ้งกลับมา.