เมื่อวันที่ 20 พ.ค.พรรคใหม่ออกแถลงการณ์ถึงจุดยืนมาตรา 112 ภายหลังการถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล กับพรรคก้าวไกล ซึ่งมีผู้วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์จำนวนมาก ถึงท่าทีของแกนนำจนเกิดแฮชแท็ก “กูไม่เอาพรรคใหม่” ในทวิตเตอร์ 

โดยแถลงการณ์ระบุว่า “ตามที่ปรากฏในสื่อออนไลน์ ว่า พรรคใหม่มีนโยบายแก้มาตรา 112 ให้เป็นโทษที่รุนแรงขึ้น หรือประหารชีวิตนั้น พรรคใหม่ขอแถลงว่าพรรคใหม่ไม่มีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ให้เป็นโทษที่ร้ายแรงขึ้นหรือโทษประหารชีวิตแต่อย่างใด โดยพรรคใหม่มีนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเท่านั้น ทั้งนี้ พรรคใหม่จะกำชับและตักเตือนกรรมการบริหารพรรคที่พูดถึงในสื่อสังคมออนไลน์ต่อไป พรรคใหม่ต้องขออภัยในความเข้าใจคลาดเคลื่อน มา ณ ที่นี้” 

ขณะที่นายกฤดิทัศ แสงธนโยธิน หัวหน้าพรรคใหม่ กล่าวถึงการวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล หลังมีคลิปหนึ่งในคณะกรรมการบริหารพรรคพูดถึงกรณีมาตรา 112 ว่า ตามข้อเท็จจริงแล้วคลิปดังกล่าวเป็นความเห็นส่วนตัว ของคณะกรรมการบริหารคนนั้น ซึ่งทางพรรคเองก็ไม่ได้เห็นด้วย เมื่อคืนที่ผ่านมา มีโอกาสคุยกับรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่เป็นคนประสานให้เข้าร่วมรัฐบาล จึงตัดสินใจขอถอนตัว เพราะมีความไม่สบายใจในการเข้าร่วมรัฐบาลครั้งนี้ แต่เนื่องจากตนเดินทางมาทำธุระต่างจังหวัด จึงยังไม่มีโอกาสได้แถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ขณะที่แฟนเพจเฟซบุ๊กของพรรคก็ไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งทีมงานที่ดูแลคาดว่าน่าจะถูกรีพอร์ตหลังโดนถล่ม 

ทั้งนี้นายกฤดิทัศ กล่าวยืนยันว่า พรรคใหม่ยังสนับสนุนพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาล โดยการยกมือโหวตสนับสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการของประชาธิปไตย สิ่งไหนที่ดำเนินการถูกต้องก็จะสนับสนุน ส่วนเรื่องมาตรา 112 พรรคใหม่ยังมีจุดยืนเหมือนเดิม  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพรรคใหม่ถอนตัว ทำให้ขณะนี้มีพรรคการเมืองที่จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลจำนวน 8 พรรค 313 เสียง ได้แก่ พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคเป็นธรรม พรรคพลังสังคมใหม่