เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 7 ก.ค. นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครองสำนักการสืบสวนและนิติการกรมการปกครองพร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง นำกำลังเข้าจับกุม ด.ต.ภูวเมศร์ (สงวนนามสกุล) ผบ.หมู่ ส.ทท.1 กก.1 บก.ทท.3 และ นายมานัส สุขสอง อายุ 46 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี บริเวณลานจอดรถหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 6 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ขณะทั้งสองคนขับรถมาตระเวนเก็บส่วยตามสถานบันเทิงใน พื้นที่ จ.นนทบุรี โดยสามารถยึดเงินของกลางที่ทำสัญลักษณ์ไว้ได้จำนวนหนึ่งที่เจ้าหน้าที่วางแผนล่อไว้และผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เพิ่งเก็บเงินมาจากสถานบันเทิงมาก่อนหน้านี้

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะบุกเข้าจับกุมเกือบเกิดเหตุยิงปะทะกันโชคดีที่เจ้าหน้าที่ขับรถปิดท้ายปิดหน้าไม่ให้ผู้ต้องหาทั้งสองคนขับรถหลบหนีออกจากบริเวณลานจอดรถได้ โดย ด.ต.ภูวเนตร ขับรถราชการเป็นรถสายตรวจตำรวจท่องเที่ยว โตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ขท 1840 กรุงเทพมหานคร เลขข้างรถ 112-03 ส่วนนายมนัส ขับรถนิสสันซันนี่ สีบรอน์ทอง ทะเบียน ษณ 7782 กรุงเทพมหานคร ขณะเข้าจับกุม ด.ต.ภูวเนตร พยายามขัดขืนเจ้าหน้าที่จึงประสานตำรวจสายตรวจพื้นที่มาทำการควบคุมตัวไว้

นายรณรงค์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากชุดเฉพาะกิจ ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการสถานบันเทิงว่ามีเจ้าหน้าที่แอบอ้างเป็นชุดเฉพาะกิจกรมการปกครองเดินสายเก็บส่วยสถานบันเทิง โดยเรียกเก็บส่วยอย่างหนักใน อ.บางใหญ่ จึงประสานผู้ประกอบการสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง​ ที่ถูกเรียกเก็บส่วย เพื่อวางแผนจับกุมโดยทำตำหนิเงินล่อซื้อไว้ กระทั่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ขับรถตระเวนเก็บส่วยสถานบันเทิงหลายร้าน

เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจกรมการปกครองจึงขับรถติดตามมาจนทั้ง 2 เข้าไปเก็บส่วยในร้านที่วางเงินล่อซื้อไว้ ก่อนขับมาบริเวณลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงปิดทางเข้าออกเข้าจับกุม ทั้งนี้อยากฝากบอกถึงผู้ประกอบการสถานบันเทิงทุกร้านว่า​ ชุดเฉพาะกิจกรมการปกครองไม่เคยมีนโยบายหรือให้เจ้าหน้าที่เก็บส่วยหรือว่าอบายมุขทุกชนิด หากมีเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานใดแอบอ้างชุดเฉพาะกิจกรมการปกครอง ตนจะจับกุมอย่างไม่ไว้หน้า และหากสถานบันเทิงรู้เห็นส่งสวยให้กับเจ้าหน้าที่ สถาบันเทิงก็จะเข้าข่ายมีความผิดด้วย.