เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ที่สำนักพัฒนาสังคม เขตดินแดง นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเปิดการอบรมและมอบนโยบาย การอบรมเชิงปฏิบัติการการเสริมสร้างความตระหนักและการพัฒนานโยบายคุ้มครองเด็กขององค์กรสำหรับผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ ครูและครูพี่เลี้ยง ในสำนักฯ โรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กฯ สังกัดกรุงเทพมหานคร ว่า การเริ่มต้นพัฒนาให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร มีนโยบายคุ้มครองเด็ก (Child Safeguarding Policy) ของตนเอง จะช่วยให้แต่ละหน่วยงานมีผู้ที่รับผิดชอบเรื่องการคุ้มครองดูแลเด็กอย่างชัดเจน หากใครหรือเด็กคนไหนต้องการความช่วยเหลือ จะได้มีคนคอยดูแลในระดับที่ใกล้ที่สุด

นอกจากนี้จะช่วยให้บุคลากรของ กทม. ทุกคน มีความรู้และความเข้าใจว่า สิ่งใดที่ห้ามหรือควรกระทำต่อเด็กบ้าง และหากเกิดเหตุขึ้นแล้ว ทุกหน่วยงานจะทราบได้ทันทีว่าจะต้องจัดการเพื่อให้ความช่วยเหลือและส่งต่อเด็กอย่างไรให้รวดเร็วและเกิดประโยชน์สูงสุดกับเด็ก เมื่อกรุงเทพมหานครมีนโยบายคุ้มครองเด็กในหน่วยงานแล้ว อยากฝากทุกสำนัก ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารสถานศึกษาและศูนย์พัฒนาเด็กฯ ทุกแห่ง นำไปสื่อสารและนำไปปฏิบัติจริง เพื่อมุ่งสร้างเมืองที่เด็ก ได้รับสิทธิอย่างแท้จริง

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการมีส่วนร่วม การรับฟังข้อเสนอแนะ เช่น เรื่องเครื่องแต่งกายชุดนักเรียน ชุดลูกเสือและทรงผมที่แต่ละสถานศึกษากำลังดำเนินการอยู่ขณะนี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยลดข้อจำกัดของเด็ก และครอบครัวที่อาจทำให้เด็กบางคนเข้าไม่ถึงการศึกษาได้ รวมไปถึงเรื่องความปลอดภัยของเด็ก ๆ อย่างรอบด้าน ทั้งนี้หวังว่า กทม. จะเป็นจังหวัดแรกในประเทศที่ทุกหน่วยงานของเรา มีนโยบายคุ้มครองเด็กและใช้งานจริงโดยเชื่อมต่อกันอย่างเป็นระบบ ไร้รอยต่อ ดูแลเด็ก ๆ ทุกคนใน กทม. ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีปราศจากความรุนแรงและการล่วงละเมิดทุกรูปแบบ ซึ่งเด็กเหล่านี้จะเติบโตขึ้นเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ ขับเคลื่อน กทม. ต่อไปในอนาคต

สำหรับการจัดการอบรมในครั้งนี้เพื่อพัฒนานโยบายคุ้มครองเด็กในสำนักการศึกษา สำนักพัฒนาสังคม โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร และศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนกรุงเทพมหานคร ในการพัฒนากลไกเฝ้าระวังและรับแจ้งเหตุเพื่อการคุ้มครองเด็กในหน่วยงานต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร โดยมีกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย ผู้ปฏิบัติงานด้านคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กของสำนักการศึกษา สำนักพัฒนาสังคม โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 9 แห่ง และศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนกรุงเทพมหานคร จำนวน 3 ศูนย์ จำนวน 30 คน และวิทยากรจากผู้เชี่ยวชาญด้านการคุ้มครองเด็ก จำนวน 5 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 35 คน

โดยมีเนื้อหาการอบรม ประกอบด้วย การประเมินความรู้ ทักษะด้านการคุ้มครองเด็ก ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 การพัฒนานโยบายคุ้มครองเด็กในองค์กร การร่างนโยบายคุ้มครองเด็ก การรับฟังการนำเสนอ (ร่าง) นโยบายคุ้มครองเด็กของหน่วยงานและการมอบเกียรติบัตร โดยวิทยากรจาก มูลนิธิช่วยเหลือเด็ก (ประเทศไทย) มูลนิธิวายไอวาย มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย และเครือข่ายครูก่อการสิทธิเด็ก.