เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 28 พ.ค. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) กลุ่มเสื้อแดงเอฟซีพรรค พท. กว่า 100 คน นำโดย นายนิยม นพรัตน์ หรือ “เค เสื้อแดง” ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อพรรค พท. เพื่อขอให้พิจารณาทบทวนถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. เป็นตัวแทนรับหนังสือ
ทั้งนี้ กลุ่มเสื้อแดงเอฟซีได้ถือป้ายข้อความ เช่น “พรรคใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค ถอยเพื่อคนที่รัก พักไม่ได้แปลว่าแพ้” “เหลี่ยมทุกดอกบอกเพื่อนกัน” “เราไม่ชอบพวกหน้าไหว้หลังหลอก” “เพื่อนกัน เขาไม่เอามีดจ่อหลังเพื่อน” ทั้งนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.มักกะสัน มาดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มเสื้อแดง

จากนั้น ตัวแทนกลุ่มได้อ่านหนังสือแสดงแสดงเจตจำนงต่อพรรค พท. ระบุว่า เนื่องจากพวกเรากลุ่มคนเสื้อแดงเอฟซีพรรค พท. มีความเห็นว่าก่อนการเลือกตั้ง พรรค พท.ถูกโจมตีด้วยข้อมูลเท็จจากกลุ่มพรรคการเมือง และเอฟซีบางพรรคต่อเนื่องมาถึงหลังเลือกตั้ง ทางกลุ่มเห็นว่าพวกเราควรมาให้กำลังใจพรรค พท. เพื่อให้พรรคได้รับทราบว่ายังมีผู้สนับสนุน 10 ล้านกว่าเสียงจากการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่ยังให้การสนับสนุนพรรค พท.ในการขับเคลื่อนงานทางการเมืองเพื่อประชาชนสืบต่อไป
ขณะเดียวกันทางกลุ่มเห็นว่าการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ มีกลุ่มคนบางกลุ่มบางฝ่ายพยายามบิดเบือนข้อมูล โจมตีพรรค พท. จนเกิดความขัดแย้งกันขึ้นภายในพรรคร่วมรัฐบาล ทางกลุ่มมีความไม่สบายใจว่าการร่วมรัฐบาลครั้งนี้ จะเดินหน้าต่อไปด้วยกันในบรรยากาศและความระแวงแคลงใจ ไร้ซึ่งการให้เกียรติกันในพรรคร่วมแบบนี้ คงจะไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย
หนังสือ ระบุว่า เมื่อพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมองว่าพรรค พท.เป็นอุปสรรค และปัญหาต่อการจัดตั้งรัฐบาลอ้างอิงธรรมเนียมปฏิบัติ ทางกลุ่มจึงต้องการให้พรรค พท.ตระหนักว่าพรรคที่ได้อันดับ 2 ที่ผ่านมาไม่เคยมีธรรมเนียมจับมือร่วมรัฐบาลกับพรรคที่ได้อันดับ 1 ทั้งนี้ เพื่อลดความขัดแย้งดังกล่าว ทางกลุ่มจึงมีข้อเสนอถึงพรรค พท.เพื่อพิจารณาดังนี้ 1.ให้ทบทวนถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ 2.ให้เกียรติพรรคอันดับ 1 ได้รวบรวมเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลตามมารยาททางการเมือง
3.ให้โหวตสนับสนุนแคนดิแดตนายกฯ ที่มาจากพรรคที่ได้อันดับ 1 4.ให้โหวตสนับสนุนกระบวนการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชน และ 5.ถ้าพรรคอันดับ 1 ไม่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากเพื่อจัดตั้งรัฐบาลได้ ให้พรรค พท.ใช้สิทธิในการเป็นพรรคอันดับ 2 รวบรวมเสียงข้างมากเพื่อจัดตั้งรัฐบาล นำนโยบายที่หาเสียงไว้กับประชาชนมาผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป หรือแล้วแต่พรรคจะใช้ดุลพินิจเป็นอย่างอื่น ทางกลุ่มขอให้พรรค พท.ได้โปรดพิจารณาข้อเสนอนี้ หากพรรคตัดสินใจอย่างใดก็ตาม ทางกลุ่มก็ขอน้อมรับการตัดสินใจ และยืนยันว่าจะเคียงข้างพรรคด้วยความเชื่อมั่นและศรัทธาตลอดไป

ทางด้าน นายอนุสรณ์ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ขอขอบคุณข้อห่วงใยและข้อเสนอแนะพรรค พท. เป็นสถาบันทางการเมือง เป็นเสาหลักของประเทศ เรามีปรัชญามาตลอดว่าพรรค พท.หัวใจคือประชาชนไม่ว่าจะเจออะไรก็ตาม ซึ่งการมายื่นหนังสือถือเป็นสิทธิตามระบอบประชาธิปไตย วันนี้ตนขอรับเอากำลังใจและความห่วงใย และจะนำหนังสือนี้เสนอต่อผู้บริหารพรรคตามขั้นตอนต่อไป ถือว่าเป็นการเปิดพื้นที่เสรี เป็นธรรม ใช้ดุลพินิจเจรจา ทั้งนี้เราไม่กังวลทัวร์ลงพรรค แต่พรรค พท.กลัวทัวร์ที่ไม่มีคุณภาพ แต่ขอให้มีคุณธรรม จริยธรรม โลกเสรีประชาธิปไตยต้องสามารถแสดงออกได้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ซึ่งการแสดงความเห็นควรสร้างสรรค์ ตรงไปตรงมา ไม่บิดเบือน ด้อยค่า หรือกล่าวหาใส่ร้ายพรรค พท. หากมีการแสดงความคิดเห็นและมีกระบวนการบิดเบือน ดิสเครดิตให้พรรค พท.เสียหาย เราขอสงวนสิทธิ์ฟ้องร้องเพื่อปกป้องสิทธิ์
“การยื่นหนังสือดังกล่าวถือเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน เหมือนการซื้อลอตเตอรี่รางวัลเลขท้าย 29 พี่น้องประชาชนก็ตามมาดูว่าเขาจะเดินหน้าผลักดันนโยบายอย่างไร ส่วนคนอื่นที่ไม่ได้ซื้อเลขท้าย 29 กลับมากดดันเลขท้ายที่ตนเองไม่ได้ซื้อมาตั้งแต่ต้น ดังนั้น ใครที่ซื้อเลขท้ายอะไรเอาไว้ก็ไปตามกดดันเลขนั้นเอง” นายอนุสรณ์ กล่าว
ส่วน นายนิยม กล่าวกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า การมายื่นหนังสือวันนี้ อาจจะทำให้กระทบความสัมพันธ์ 8 พรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ว่า วันนี้เรามาให้กำลังใจพรรค แต่กลับถูกกล่าวหาว่าเรามากดดันพรรค เรากลายเป็นคนร้ายต่อสังคมซึ่งจะไม่ยอมอีกแล้ว ส่วนการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลนั้น ไม่ใช่มาไล่เอากับพรรค พท.พรรคเดียว แต่ 8 พรรคต้องร่วมมือกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่ใช่มาขี่คอหรือกดดันพรรค พท. ซึ่งไม่เป็นธรรมกับพรรคที่ตนเชียร์ ทั้งนี้ ควรคุยกันในโต๊ะเจรจา ไม่ควรเอาคำพูดของเพื่อนออกมาพูดภายนอก แล้วทำให้พรรค พท.ถูกตีอยู่พรรคเดียว แบบนี้พวกเราไม่พอใจ ทั้งนี้ อยากให้สื่อไปถามกลับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หรือนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ถามว่าพวกนี้เป็นใคร ทำไมต้องออกมาพูดบังคับหรือกดดัน
“ที่เราให้ถอนตัว เพราะอยากให้ทุกพรรคทบทวนว่าหากขาดพรรคใดพรรคหนึ่งไปแล้วจะเดินไปอย่างไรต่อ ไม่ใช่โยนพรรคเพื่อไทยอย่างเดียว หากจะไปด้วยกัน ต้องไปด้วยกันอย่างมีเกียรติ หากวันใดลดเกียรติพรรคเพื่อไทยรวมถึงแฟนคลับ ก็ควรถอนตัวออกมา” นายนิยม กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเริ่มกิจกรรมกลุ่มเสื้อแดงเอฟซีบางส่วน ได้แวะซื้อมินต์ช็อกตามที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค พท. เคยแนะนำไว้