เมื่อวันที่ 5 ก.ย. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงแผนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่า ปัจจุบันวัคซีนที่มีการนำเข้ามาใช้ในประเทศไทยจะต้องมีการมาขออนุญาตขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อใช้ในประเทศไทย ซึ่งจะมีการระบุด้วยว่าวัคซีนสามารถใช้ในกลุ่มใดได้บ้าง โดยขณะที่มีการขึ้นทะเบียนใช้ในกลุ่มอายุที่น้อยที่สุดคือวัคซีนไฟเซอร์ ขึ้นทะเบียนฉีดในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ซึ่งขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขมีการพิจารณาแนวทางการฉีดอยู่หลายรูปแบบ ซึ่งในรายละเอียดจะมีการแจ้งให้ประชาชนทราบอีกครั้ง

ด้าน นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า วัคซีนที่มีการขึ้นทะเบียนใช้ในประเทศไทยตอนนี้มีข้อกำหนดในการเริ่มฉีดในกลุ่มอายุที่แตกต่างกัน อย่างโมเดอร์นามาขึ้นทะเบียนฉีดวัคซีนในกลุ่มอายุ 12 ปี ขึ้นไป ส่วนวัคซีนไฟเซอร์ขึ้นทะเบียนฉีดในกลุ่มอายุ 12 ปี ขึ้นไป ส่วนอายุวัคซีนสำหรับฉีดให้เด็กอายุต่ำกว่านี้ยังไม่มีตัวไหนขึ้นทะเบียน รวมถึงในต่างประเทศก็ยังไม่ได้มีการขึ้นทะเบียน หลายตัวอยู่ระหว่างการศึกษาวิจัย อย่างไรก็ตาม ขณะไฟเซอร์อยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนวัคซีนฉีดในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ในสหรัฐอเมริกา ส่วนวัคซีนตัวอื่นๆ เช่น วัคซีนซิโนแวค และวัคซีนซิโนฟาร์ม อยู่ระหว่างการศึกษาการฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไปในระยะที่ 3 คือ ดูประสิทธิภาพและความปลอดภัย

ทั้งนี้ ที่สำคัญคือ เนื่องจากการติดเชื้อในเด็กนั้นมักไม่ป่วย ไม่เหมือนกับกลุ่มอายุอื่นๆ อย่างผู้มีโรคประจำตัว หรือผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงติดเชื้ออาการรุนแรง เสียชีวิต ดังนั้นกรณีการฉีดวัคซีนในเด็ก ซึ่งติดเชื้อแต่ไม่ป่วยนั้นจึงต้องให้ความสำคัญอย่างมากในเรื่องของความปลอดภัย.