สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) มีมติในการประชุมเมื่อวันอังคาร ขยายระยะเวลาบังคับใช้มาตรการปิดล้อมอาวุธ หรือการห้ามซื้อขายอาวุธกับซูดานใต้ ออกไปอีกอย่างน้อย 1 ปี จนถึงวันที่ 31 พ.ค. 2567
มติดังกล่าวผ่านการรับรองด้วยเสียงข้างมาก 10 เสียง และงดออกเสียง 5 เสียง ได้แก่ จีน และรัสเซีย ซึ่งเป็นสมาชิกถาวรของยูเอ็นเอสซี ร่วมสมาชิกไม่ถาวร 3 ประเทศจากทวีปแอฟริกา ได้แก่ กานา กาบอง และโมซัมบิก โดยทั้งสามประเทศให้เหตุผลว่า มาตรการดังกล่าว “ไม่สร้างสรรค์” และสวนทางกับการที่ซูดานใต้ “มีพัฒนาการหลายด้าน” ตามแนวทางของยูเอ็น
#Nebenzia: Russia???????? abstained on the draft #UNSC resolution on renewal of South Sudan’s sanctions regime that was put forward by the United States.
— Russia at the United Nations (@RussiaUN) May 30, 2023
????We believe the document does not provide sufficient sanctions relief.
????https://t.co/4Ei8HtMUWx pic.twitter.com/j5oXw19qxd
ทั้งนี้ ซูดานใต้ซึ่งแยกเอกราชจากซูดาน เมื่อปี 2554 เผชิญกับสงครามกลางเมือง ระหว่างปี 2556-2561 ซึ่งเป็นการแย่งชิงอำนาจ ระหว่าง นายรีค มาชาร์ กับ นายซัลวาร์ คิอีร์
แม้การสู้รบยุติด้วยข้อตกลงสันติภาพ ซึ่งสหประชาชาติเป็นผู้ไกล่เกลี่ย นำไปสู่การขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีของคิอีร์ และมาชาร์ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี อย่างไรก็ตาม การสู้รบส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 400,000 ราย และชาวซูดานใต้มากกว่า 2.3 ล้านคนต้องพลัดถิ่น.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES