เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ร.ต.อ.เจนวัธน์ วิทยารติโชติตระกูล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุหลานเสพยาบ้าหลอนคลุ้มคลั่งใช้มีดแทงยายเสียชีวิต ชาวบ้านช่วยกันจับผู้ก่อเหตุไว้ได้ เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 9 บ้านตูม ต.หนองนาคำ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.บรรจง พาโคตร สว.สส. แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรม รุด กู้ชีพ อบต.หนองนาคำ รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบศพ นางสมุทร (สงวนนามสกุล) อายุ 79 ปีเจ้าของบ้าน ถูกของมีคมปาดคอและแทงเสียชีวิตอยู่ในห้องน้ำ สภาพสวมเสื้อคอกระเช้าสีเขียว นุ่งกางเกงขาสามส่วนสีน้ำเงิน พบกองเลือดอยู่หน้าซิงค์ล้างจาน มีดทำครัวปลายแหลมเปื้อนเลือดยาวประมาณ 1 ฟุต วางอยู่ และมีรอยลากเป็นคราบเลือดเข้าไปในห้องน้ำคาดว่าจะใช้มีดหั่นศพยาย เนื่องจากที่บริเวณลำคอมีรอยมีดเฉือนจนเกือบขาด จากการชันสูตรพบถูกมีดปาดลำคอจนหลอดลมขาดบริเวณใบหน้าและริมผีปากถูกปาดหลายแผล หลังศีรษะถูกเฉือน หน้าท้องด้านขวาและใต้ราวนมด้านขวาถูกปาดเป็นแผลยาว และถูกแทงบริเวณลิ้นปี่ โดยมีคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดบ้านตรงข้ามบันทึกเสียงขณะที่เกิดเหตุเอาไว้ได้

ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายศิริ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี หรือแล็ก หลานชายผู้ตาย ถูกนายไพบูลย์ พลโต อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้านตูม และชาวบ้านช่วยกันจับกุมใช้เชือกมัดมือไขว้หลังนอนคว่ำหน้าอยู่บริเวณหน้าบ้าน มีแผลมีดบาดที่มือซ้าย โดยยังมีอาการมึนเมาให้การไม่รู้เรื่อง บอกเพียงว่า ตื่นมายายก็ตายแล้ว ยิงผมเลยจะได้ไปอยู่กับยาย จากการตรวจค้นห้องนอนนายศิริ พบยาบ้า 2 เม็ด และอุปกรณ์การเสพ ตำรวจได้ควบคุมตัวนายศิริไปโรงพัก ซึ่งญาติและชาวบ้านพยายามเข้าไปรุมประชาทัณฑ์และบอกให้นำไปฆ่าทิ้ง แต่เมื่อมาถึงโรงพัก นายศิริมีอาการสงบลงมาก ก่อนบอกว่า “ผมไม่มีสาเหตุที่จะต้องฆ่ายาย แต่ตามหลักฐานผมเป็นคนฆ่ายาย ผมไม่เข้าใจว่าฆ่ายายทำไม อยากบอกว่าผมรักยายตลอด อยากขอโทษยาย จากใจเลย สิ่งที่ผมทำไปผิดแน่นอน”

น.ส.โสรยา นามมนตรี อายุ 34 ปี ซึ่งมีบ้านอยู่ตรงข้ามบ้านที่เกิดเหตุและเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า พวกตนกลับมาจากเก็บเห็ด เลยมานั่งกินข้าวบนโต๊ะ ผู้ก่อเหตุขี่ จยย.เข้าไปในบ้าน ไม่นานเดินกลับมาลักษณะหน้าตาตื่น ตัวสั่น หน้าซีด จึงถามว่าเป็นอะไร ผู้ตายก็วิ่งรอบบ้านไปหมอบ ไปซ่อน ไม่นานก็เห็นผู้ตายเดินตามหลังผู้ก่อเหตุมา ก่อนที่ผู้ตายจะเดินตามหลังหลานเข้าไปในบ้าน ต่อมาได้ยินเสียงลักษณะคล้ายคนทำร้ายกัน จึงหันไปดูก็พบยายล้มลง ผู้ก่อเหตุใช้มีดฟันและแทงยายก่อนลากยายเข้าไปในห้องน้ำ พวกตนมีแต่ผู้หญิง ไม่กล้าเข้าไปช่วย ได้แต่ร้องกรี๊ดๆ ให้ชาวบ้านมาช่วย แต่ยายก็ถูกฟันแทงหลายแผล ผู้ใหญ่บ้านนำผู้ชายเข้ามาช่วยกันจับตัวผู้ก่อเหตุ และนำยายส่งโรงพยาบาล

น.ส.ทิพวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี หลานสาวผู้ตาย เล่าว่า นายศิริไม่ยอมไปทำงาน ตนอยู่บ้านติดกันกับยาย ก่อนเกิดเหตุยายเดินไปหาตนที่หลังบ้าน ถามว่ายายกินข้าวหรือยัง ยายบอกว่ากินแล้ว และได้ถามว่าอาการนายศิริเป็นอย่างไร ยายบอกว่า อาการนายศิริยังคุ้มดีคุ้มร้าย ตนจึงเอาน้ำมันไปส่งพ่อที่กระท่อมนา ชาวบ้านมาบอกว่านายศิริฆ่ายายตาย ตนจึงรีบกลับมาดู ซึ่งเมื่อคืนนี้นายศิริจับยายขังไว้ในห้อง จับยายเขย่าตัวแล้วถามหาเอกสารทางราชการ หาว่ายายไปซ่อนไว้ เพราะจะเอาไปสมัครงาน ตนจึงไปห้ามว่าอย่าทำยาย นายศิริเสพยาบ้าจนหลอนและเสพหลายอย่างรวมกัน คนที่อยู่บ้านด้วยกลัวจนหนีไปอยู่ที่อื่น พวกตนอยากให้ยายไปอยู่ที่อื่นแต่ยายไม่ยอมไป เหลือยายอยู่กับนายศิริแค่ 2 คน ไม่คิดว่าจะฆ่ายายเร็วขนาดนี้

ส่วน นางจันทร์เพ็ญ (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี แม่นายศิริ และลูกสาวผู้ตาย เล่าว่า ตนทำงานเป็นแม่บ้านที่ห้างแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครอุดรานี ส่วนนายศิริ ทำงานรับจ้าง เคยมีภรรยาและลูก 1 คน แต่ภรรยาได้หอบลูกหนีไป 7-8 เดือนแล้ว ทำให้หันมาเสพยาบ้าจนมีอาการหลอนและไม่ยอมไปทำงาน คนที่อาศัยอยู่ในบ้านก็หนีหมด เพราะกลัวจะไม่ปลอดภัย ก่อนเกิดเหตุ นายศิริเสพยาบ้าและกัญชาจนมีอาการหลอน 3 วัน ตนกลัวจึงหนีไปเช่าห้องอยู่ ตนชวนแม่ไปอยู่ด้วย แต่แม่ไม่ยอมไป บอกให้ไปอยู่บ้านญาติที่หนองหินก็ไม่ไป เพราะห่วงนายศิริ หลานชาย กระทั่งมาถูกหลานชายหลอนยาฆ่าตาย ซึ่งตนเสียใจมาก จะไม่ยอมให้อภัยลูกคนนี้เด็ดขาด

พ.ต.อ.จามร กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น สาเหตุเกิดจากความเครียด นายศิริได้เลิกกับภรรยา และมาเสพยาเสพติดจนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ซึ่งจากการตรวจค้นพบยาบ้าในตัว 2 เม็ด เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าบุพการี” ไว้ก่อนเนื่องจากเป็นยายที่เลี้ยงผู้ต้องหามาตั้งแต่เด็ก ในส่วนที่ประชาชนที่อยู่กับบุตรหลานที่มีอาการเกิดจากจิตเวช ซึ่งทาง ตร.ภาค 4 มีโครงการ “นาคาพิทักษ์รักประชา” โดยได้มีการสำรวจเป็น 5 กลุ่มให้ประชาชนส่งรายชื่อเพื่อจะได้มีมาตรการควบคุมทางหน่วยงานจะได้เข้าดูแลคนกลุ่มนี้ ถ้าไม่แจ้งจะไม่ได้ข้อมูลในการเข้าไปดูแล ซึ่งรายนี้ก็มีอาการจากยาเสพติดทำให้หลอนและลงมือก่อเหตุดังกล่าว.