เมื่อวันที่ 7 ก.ย. พ.ต.ท.อภิชาติ โกเนตร์สุวรรณ สว.(สอบสวน) สภ.หนองกรับ จ.ระยอง รับแจ้งเหตุฆ่าชิงทรัพย์หน้าห้องแถวปากทางเข้าวัดหนองซิมสิว ริมถนน บ้านค่าย-บ้านบึง หมู่ 1 ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.บ้านค่าย และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าชั้นเดียวติดกันหลายห้อง โดยหน้าห้องข้างร้านขายน้ำปั่นพบสแลนสีเขียวปิดกั้นระหว่างห้องเช่า พบศพ น.ส.หยดน้ำ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ชาว จ.ลำปาง สภาพนอนตะแคงหันหน้าเข้ากำแพงกั้นระหว่างห้องเช่า ไม่ใส่เสื้อ สวมยกทรงสีดำ กางเกงยีนขายาว มีเลือดปนน้ำฝนไหลนองเต็มพื้น พบบาดแผลถูกของมีคมปาดคอจนเกือบขาด และมีแผลที่ข้อมืออีก 1 แห่ง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ชม. ใกล้ที่เกิดเหตุพบร่อยรอยการต่อสู้ และเอกสารบัตรต่างๆ ผู้ตายกระจายเกลื่อนพื้น จึงเก็บและบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนสามีผู้ตาย ให้การทั้งน้ำตาว่า ผู้ตายทำงานอยู่โรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง จะขี่รถ จยย.มาจอดบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อขึ้นรถรับ-ส่งพนักงานของโรงงานไปทำงานและกลับมาส่งเวลา 18.00 น. แล้วจึงขี่รถ จยย.ที่จอดไว้กลับเข้าบ้านพักเป็นประจำทุกวัน กระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. เมื่อวานนี้ (6 ก.ย.) ภรรยายังไม่กลับจึงออกมาตามหาก็ไม่พบ อีกทั้งรถ จยย.ก็ไม่ได้จอดอยู่ พยายามโทรศัพท์ติดต่อก็ติดต่อไม่ได้ เลยกลับไปรอที่บ้านผ่านไป 2 ชม. ภรรยาก็ยังไม่กลับ จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ แต่เนื่องจากหายตัวไปยังไม่ครบ 24 ชม.ตำรวจเลยยังไม่รับแจ้ง ตนพยายามหาเบาะแสในไลน์กลุ่มหมู่บ้านเพราะเกรงจะเกิดอุบัติเหตุและเหตุร้ายกับภรรยาแต่ก็ไม่มี กระทั่งวันนี้ ตนพร้อมด้วยผู้นำชุมชนได้ออกมาตรวจสอบจุดที่ภรรยาจอดรถ จยย.อีกครั้ง เป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าของร้านน้ำปั่นเตรียมเปิดร้านได้นำสแลนปิดหน้าร้านออก ปรากฏว่าพบคราบเลือดปะปนน้ำฝนนองเต็มพื้น พอดึงผ้าสแลนที่กองอยู่ออกก็พบขาคนโผล่ออกมา จึงเปิดสแลนออกก็แทบช็อกทำอะไรแทบไม่ถูก เพราะร่างภรรยาที่นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ ก่อนที่ผู้นำชุมชนจะรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว

สอบถามชาวบ้านที่พักอยู่ในห้องเช่าติดกับจุดเกิดเหตุ เบื้องต้นทราบว่า คืนที่ผ่านมาฝนตกหนักมากได้ยินแต่เสียงฝนเสียงฟ้าร้องดัง และได้ยินเสียงคล้ายคนทะเลาะกันแต่คิดว่าเป็นเสียงทีวี จึงไม่ได้สนใจอะไร จากนั้นเสียงก็เงียบหายไป กระทั่งเช้ามาพบศพดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สันนิษฐานว่าคนร้ายอาจอาศัยช่วงฝนตกจะเข้ามาทำมิดีมิร้าย หรือหมายจะชิงทรัพย์ แต่ผู้ตายขัดขืนจึงลงมือก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยม แล้วรื้อค้นทรัพย์สินพร้อมเอารถ จยย.ของผู้ตายขี่หลบหนีไป ส่วนสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง จึงกระจายกำลังตรวจสอบวงจรปิดโดยรอบติดตามรถ จยย.ผู้ตายและเร่งติดตามตัวคนร้ายมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป