“พ่อจุ้ง” ก้องภพ สรงกระสินธ์ เห็นด้วยที่ “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยอดนักเตะทีมชาติไทย ย้ายกลับมาเล่นกับ “เดอะแรบบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ถือว่าทำได้ดีแล้ว แม้ไม่ได้แชมป์เจลีก จากนี้ก็ส่งมอบความหวังกับนักเตะรุ่นใหม่
ยืนยันชัดเจนเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ว่า ชนาธิป จะย้ายจาก คาวาซากิ ฟรอนตาเล ซบ “เดอะแรบบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แน่นอน โดยค่าตัวคาดว่าอยู่ที่ 70 ล้านบาท และเงินเดือนหลักล้านบาท เป็นการรูดม่านการค้าแข้งแดนซามูไร ของ ชนาธิป ที่ไปลุยมาตั้งแต่กลางปี 2017 ไว้ที่ 6 ปีพอดี
“กีฬาเดลินิวส์” สอบถามความเห็นของ “พ่อจุ้ง-ก้องภพ” ซึ่งยอดคุณพ่อ ผู้ปลุกปั้น เจ้าเจ กล่าวว่า การที่ลูกชาย ไปเล่นญี่ปุ่น ก็เป็นที่ยอมรับของวงการฟุตบอลญี่ปุ่นแล้ว รางวัลส่วนตัวได้ติดทีมยอดเยี่ยมเจลีก ก็รอแชมป์เจลีก แต่เมื่อไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ให้รุ่นใหม่ได้ลอง เจ เองเดือน ต.ค.นี้ จะอายุ 30 ปี แล้ว ก็อยู่ในช่วงปลายของชีวิตค้าแข้ง ได้กลับมาเล่นในไทย ก็เป็นเรื่องดี
เมื่อถามว่า มีโอกาสที่ ชนาธิป จะโบยบิน สู่ลีกต่างประเทศอีกหรือไม่ คุณพ่อก้องภพ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่า ชนาธิป ก็เหมือน “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน, “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ไปทำได้สำเร็จแล้ว ก็กลับมาเล่นช่วงท้ายปิดฉากในไทย มีแฟนคลับคอยเชียร์ คอยให้กำลังใจ จากนี้ก็เป็นเรื่องของรุ่นน้อง ที่ยังไม่เคยไป ได้ลองบ้าง จะทำสำเร็จหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ชนาธิป จะไปต่างประเทศอีกหรือไม่ เจ้าตัวตัดสินใจเอง เป็นเรื่องของอนาคต
พ่อจุ้ง ยอมรับด้วยว่า ช่วงที่ ลูกชาย ไม่ค่อยได้ลงสนามให้ ฟรอนตาเล ก็มีอาการเครียด ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา การแข่งขันสูง นักบอลก็อยากลงเล่น แต่ก็พยายามอดทน ไม่พูดอะไร ก้มหน้าก้มตาทำให้ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การย้ายทีมครั้งนี้ สาเหตุที่ ชนาธิป โยกกลับมาค้าแข้งในไทย ไม่เล่นในเจลีกต่อ เพราะว่า ฟรอนตาเล มีสัญญาไม่ขายให้ทีมในเจลีก และไม่ยอมให้ยืมด้วย ดังนั้น ทางเดียวที่จะมีโอกาสลงสนามสม่ำเสมอคือต้องกลับไทย ขณะเดียวกัน ก่อนที่จะตกลงปลงใจกับ บีจี ปทุม นั้น ยังมีสโมสรที่ทาบทาม ทั้ง การท่าเรือ เอฟซี ที่เปิดตัวชัดเจน รวมทั้ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่สนใจเช่นกัน แต่สุดท้ายแล้ว เจ้าเจ เลือกไปบีจี
ทั้งนี้ คาดว่า ชนาธิป จะเดินทางกลับไทยสัปดาห์หน้า ซึ่งก่อนกลับ ทางสโมสรจะมีพิธีการอำลาอย่างเป็นทางการ.
