เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ความเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่มีการเสนอแบ่งแยกดินแดน โดยอ้างว่า เป็นการกำหนดอนาคตของคนในพื้นที่นั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่ และไม่ได้มีแนวคิดที่แบ่งแยกแค่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่มีการปลูกฝังโดยอ้างเรื่องเสรีภาพทางวิชาการ อาทิ การอ้างประวัติศาสตร์ที่ขมขื่นในอดีตในภาคเหนือและภาคอีสาน เพื่อให้นักศึกษารู้สึกคล้อยตาม และเป็นเหยื่อของผู้อยู่เบื้องหลังกระบวนการดังกล่าวที่ต้องการใช้ประเทศไทยเป็นฐานสำคัญในการดำเนินนโยบายด้านต่างประเทศของประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อยันอำนาจกับจีนและรัสเซีย โดยการกระทำดังกล่าวจะสำเร็จได้ จะต้องมีดำเนินการแบ่งแยกความเป็นหนึ่งเดียวของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งด้วยรุ่นอายุ การแบ่งแยกพื้นที่ รวมทั้งการแบ่งแยกความรู้สึกรักและความสามัคคีของชนในชาติ ซึ่งขณะนี้ ถือว่ามาถึงขั้นที่เริ่มท้าทายความรู้สึกของประชาชนมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ตนจึงต้องขอให้ประชาชนคนไทยช่วยกันติดตามกระบวนการเหล่านี้ ซึ่งรัฐธรรมนูญระบุถึงหน้าที่ของปวงชนชาวไทยไว้ว่าจะต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมทั้งป้องกันประเทศ พิทักษ์รักษาเกียรติภูมิ ผลประโยชน์ของชาติ
นายชัยชนะ กล่าวอีกว่า สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันในจุดยืนตามรัฐธรรมนูญที่ว่าประเทศไทยเป็นอันหนึ่งอันเดียวจะแบ่งแยกมิได้ และการกระจายอำนาจจะต้องคำนึงถึงบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปกครองท้องถิ่น โดยสนับสนุนให้มีการกระจายอำนาจในรูปแบบของเมืองมหานคร ในจังหวัดที่มีความพร้อมและมีศักยภาพสูง พร้อมกับดำเนินการสร้างสันติสุขและความปรองดองในทุกพื้นที่ของประเทศ ทั้งนี้ตนเห็นว่าการแก้ไขปัญหาเรื่องการแบ่งแยกดินแดนนั้น จะต้องทำทั้งกระบวนการทางกฎหมาย โดยขณะนี้มีการดำเนินการแจ้งความเอาผิดจา.กฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องกับการจัดเสวนาเรื่อง “การกำหนดอนาคตตนเอง ในสันติภาพปาตานี” ซึ่งมีการจำลองการลงประชามติในการแบ่งแยกดินแดน ซึ่งถือเป็นการเข้าข่ายร่วมกันกระทำผิดต่อรัฐธรรมนูญ กฎหมายอาญา และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 โดยเข้าลักษณะที่กระทบต่อความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีของประชาชน จึงควรเร่งดำเนินการก่อนจะลุกลามไปยังพื้นที่อื่นๆ นอกจากนี้ ตนอยากให้กวดขันหรือบังคับใช้ประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา บุคลากรและผู้ปฏิบัติงานอื่นในสถาบันอุดมศึกษาอย่างจริงจัง เพราะคณาจารย์ในมหาวิทยาลัยบางส่วนขณะนี้ใช้คำว่าเสรีภาพทางวิชาการมาบังหน้า เพื่อใส่อคติส่วนตัวและชี้นำเยาวชนให้หลงเชื่อในข้อมูลผิดๆ รวมทั้งมีความเชื่อมโยงกับองค์กรเอ็นจีโอต่างประเทศ
“จากที่เห็นเมื่อวานนี้มีความเคลื่อนไหวแบ่งแยกภาคเหนือ โดยส่วนมากเป็นเยาวชนที่ทำกิจกรรมดังกล่าว ถือว่า เป็นวิธีการเดิมๆ ของผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ที่ต้องการใช้ความพลังของเยาวชนไปในทางที่ผิด เพื่อเรียกร้องความสนใจต่อสังคมด้วย ดังนั้น ผมเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศไม่ต้องการให้เกิดการแบ่งแยกดินแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นการสนองเป้าหมายทางการเมืองที่จะทำให้มหาอำนาจแทรกแซงกิจการภายในของไทยในการตัดสินใจในเวทีระหว่างประเทศ”นายชัยชนะกล่าว
