เหตุการณ์ฉาวสดๆ ร้อนๆ ในวงการฟุตบอลเมืองไทย เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี รอบสุดสุดท้าย ในรอบ 8 ทีม ณ ปทุมธานี สเตเดี้ยม

เป็นการเจอกันระหว่าง ทีมชาติไทย และทีมชาติเกาหลีใต้ ใครชนะ คว้าสิทธิไปเล่นฟุตบอลโลก 2023 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่ง “ช้างศึกจูเนียร์” สู้ความแข็งแกร่งไม่ไหว พ่ายคาบ้านให้กับ “โสมขาว” 1-4 พลาดตั๋วไปบอลโลกอย่างน่าเสียดาย

เท่านั้นไม่พอ ยังมีเหตุการณ์งามไส้ หลังแฟนบอลหัวรุนแรงฝั่งไทย จุดพลุแฟลร์ขึ้นบนอัฒจันทร์ ควันคลุ้งโขมง ก่อนจะโยนลงมาในสนาม พร้อมทั้งต่อว่าด่าทอนักเตะของทีมตัวเอง

การจุดพลุแฟลร์ ถือเป็นความผิดทางวินัยทางระเบียบข้อบังคับ ของสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ “เอเอฟซี” ที่กำหนดไว้ว่า ห้ามมีการจุดพลุแฟลร์ในสนามเด็ดขาด

เนื่องจากเหตุผลความปลอดภัย ซึ่งพลุแฟลร์ เป็นวัตถุที่อันตราย ก่อให้เกิดควัน และประกายไฟ และเป็นสิ่งที่ถูกสั่งห้ามนำเข้าสนามมานานแล้ว

ในรายการการแข่งขันฟุตบอลอื่นๆ ก็มีข้อบังคับเกี่ยวกับพลุแฟลร์เช่นเดียวกัน

ถ้าโดนลงโทษครั้งนี้ ประเทศไทย ส่อถูกแบนในการห้ามจัด หรือเป็นเจ้าภาพฟุตบอลทุกรายการ ในระดับ เอเอฟซี โทษฐานทำความผิดซ้ำซาก ปล่อยแฟนบอลจุดพลุแฟลร์ในสนาม

ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 4 ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น โดยแบ่งเป็น ฟุตบอลใหญ่ 3 ครั้ง และบอลชายหาด 1 ครั้ง แต่ละครั้งโดนปรับชนิดอ่วมอรทัย แต่ครั้งนี้ อาจจะหนักที่สุด

ก่อนหน้านี้ ไทย เป็นหนึ่งในประเทศ ที่อยู่ในลิสต์คาดโทษของ เอเอฟซี อยู่แล้ว เพราะเคยถูกลงโทษ จากเหตุแฟนบอลจุดพลุแฟลร์ในสนามมาแล้ว

วันนี้ เราไปย้อนดูกรณี ส.บอลไทย ถูกลงดาบโดยเอเอฟซี จากเหตุแฟนบอลจุดพลุกัน

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ถูกคณะกรรมการวินัยสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย ลงโทษครั้งแรก ในปี 2014 วันที่ 6 ก.ย. ถูกปรับเงิน 11,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.6 แสนบาท)

จากเหตุแฟนบอลจุดพลุแฟลร์ในสนาม เกมที่ ไทย แพ้ มาเลเซีย 0-1 ศึกยู-16 ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่สนามธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม

ครั้งที่สองปี 2016 วันที่ 17 ธ.ค. ถูกปรับเงิน 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ 1 ล้านบาท) หลังแฟนบอลจุดพลุแฟลร์ในสนาม เกมที่ ไทย ชนะ อินโดนีเซีย 2-0 ศึกชิงแชมป์อาเซียน ปี 2016 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน

ช่วงปลายปี 2022 วันที่ 26 ธ.ค. ส.บอลไทย ถูกปรับ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 7 แสนบาท) กรณีแฟนบอลจุดพลุแฟลร์ ในเกมเปิดบ้านเอาชนะ ฟิลิปปินส์ ไป 4-0 ในรอบแบ่งกลุ่ม ศึกอาเซียนคัพ 2022

แต่ยังดี ที่เป็นการพิจารณาของคณะกรรมการ “เอเอฟเอฟ” ไม่ใช่ “เอเอฟซี” จึงถือเป็นการคาดโทษครั้งแรก

ครั้งที่ 3 เมื่อไม่นานมานี้เอง คือศึกฟุตบอลชายหาด ชิงแชมป์เอเชีย ปี 2023 รอบสุดท้าย ระหว่างวันที่ 16-26 มี.ค. ที่พัทยา จ.ชลบุรี ภายใต้การควบคุม และกำกับดูแลของ เอเอฟซี

ระหว่างการแข่ง ได้มีแฟนบอลกลุ่มหนึ่ง จุดพลุแฟลร์ขึ้นมา ส.บอลไทย กุมขมับ ถูกปรับถึง 70,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.4 ล้านบาท)

กระทั่งล่าสุด เกิดกรณีซ้ำอีกเป็นครั้งที่ 4 ในเวทีระดับเอเชีย ที่ดูแลโดย “เอเอฟซี”

งานนี้ก็ต้องลุ้นว่าจะโดนลงโทษอย่างไร และหนักหนาสาหัสแค่ไหน?