เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบปรับปรุงเรื่องการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งจากเดิมจะกำหนดปฏิทินการย้าย 1 ปี จำนวน 2 รอบ คือ รอบเดือนมกราคม และเดือนกรกฎาคม แต่การกำหนดปฏิทินการย้ายในรอบดังกล่าว ส่งผลให้เกิดสุญญากาศในการทำงานด้วยการขาดอัตรากำลังครู โดยบางโรงเรียนหาครูเข้ามาทดแทนไม่ทัน ดังนั้นที่ประชุม ก.ค.ศ. จึงกำหนดแนวปฏฺบัติปฏิทินการย้ายรอบใหม่ให้ชัดเจนขึ้น คือ จะกำหนดออกคำสั่งรอบย้ายในภาคเรียนที่ 1 ของวันที่ 1 พ.ค. และให้มีผลวันที่ 15 พ.ค. ส่วนภาคเรียนที่ 2 กำหนดคำสั่งรอบย้ายวันที่ 15 ต.ค. มีผล 1 พ.ย. ทันที ซึ่งต้องการให้หมุนสลับแบบเก้าอี้ดนตรี เพื่อให้ได้ครูสอดรับกับตำแหน่งการย้ายเข้าและย้ายออก

           

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบแนวการพิจารณาโทษข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากระทำผิดวินัย กรณีกระทำล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เรียน หรือนักศึกษา ไม่ว่าจะอยู่ในความรับผิดชอบของตนหรือไม่ ในพฤติกรรม 6 ข้อ ดังนี้ 1.ใช้อำนาจหน้าที่บังคับหรือทำให้ผู้เรียนหรือนักศึกษาต้องจำยอมให้ร่วมประเวณี เช่น ให้นักศึกษาหรือนักเรียนที่ติด ร แก้ ร โดยยอมให้ร่วมประเวณี 2.หลอกลวงพาผู้เรียนหรือนักศึกษาไปเพื่อกระทำชำเราหรือร่วมประเวณี 3.ร่วมประเวณีหรือพยายามร่วมประเวณีกับผู้เรียนหรือนักศึกษาหรือให้ผู้เรียนและนักศึกษาบำบัดความใคร่ไม่ว่าผู้เรียนหรือนักศึกษาจะสมัครใจหรือไม่ 4.กระทำการอนาจารผู้เรียนหรือนักศึกษาคนเดียวหรือหลายคนเป็นประจำ 5.กระทำการถ่ายภาพหรือคลิปผู้เรียนหรือนักศึกษาที่ไม่สมควรทางเพศหรือให้ผู้เรียนหรือนักศึกษาเปลือยหรือเปิดเผยร่างกายที่ไม่สมควรหรือกระทำการอื่นใดในลักษณะคล้ายคลึงกัน และ 6.พฤติกรรมอื่นนอกจากข้อ 1-5 ซึ่งครูที่กระทำความผิดตามข้อ 1-5 จะมีระดับความผิดร้ายแรงมาก โดยมีโทษไล่ออกหรือปลดออกทันที ทั้งนี้การปรับแก้การพิจารณาโทษทางวินัยดังกล่าวนั้น ต้องการให้เกิดความชัดเจนในการสอบสวน เพราะผู้ที่ทำการสอบสวนจะได้ไม่ต้องไปตีความว่า โทษควรจะเป็นลักษณะไหนอีก