เมื่อเวลา 11.23 น. วันที่ 30 มิ.ย. ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาปิ่นเกล้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แล้วหรือไม่ ว่ายังไม่เห็นข่าวเลย และยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน

เมื่อถามว่านายพีระพันธุ์ ได้แจ้งหรือไม่ว่าจะลาออกเมื่อไหร่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ เป็นเรื่องของท่าน

“วันนี้ขอพูดแล้วกัน ผมจำเป็นต้องถอยห่างออกจากการเมือง ฉะนั้นอย่ามาถามผมในเรื่องการเมือง ผมขอกำหนดบทบาทของผมให้ชัดเจนว่า ผมจำเป็นต้องถอยออกมาตรงนี้ก่อน จะไปทำเฉพาะเน้นเรื่องงานของรัฐบาล ซึ่งเรามีเวลาอยู่จำกัดในตอนนี้ เพื่อจะรักษาเสถียรภาพของประเทศชาติไว้ให้ได้ ผมจะเน้นน้ำหนักตรงนี้ เรื่องการเมืองก็เป็นเรื่องของการเมืองที่จะว่ากันไป อย่าเอาผมไปทำให้มันเกิดปัญหาความขัดแย้งอีกเลย ผมจะทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่” นายกฯ กล่าว

เมื่อถามต่อว่ามีความเห็นอย่างไร ต่อข้อเสนอของสมาชิกพรรคก้าวไกล ที่เสนอเปลี่ยนวันชาติจากวันที่ 5 ธ.ค. ไปเป็นวันที่ 24 มิ.ย. ว่าเหมาะสมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็รู้อยู่แล้ว จะถามทำไม

เมื่อถามอีกว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะไปร่วมจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เรื่องการเมือง ปล่อยให้การเมืองเขาว่าไป เรื่องการเมืองไม่ตอบ

เมื่อถามย้ำว่าได้มีการพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่คุยอะไรกับใครทั้งสิ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนที่มาเดินซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า เมื่อทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมา จึงมาดักรอเพื่อขอถ่ายรูปและให้กำลังใจ “นายกฯ สู้ๆ” ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยิ้มแย้มแจ่มใสอารมณ์ดี

หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิด การใช้งานระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล และระบบเปรียบเทียบภาพใบหน้า โดยใช้งานผ่านแอปพลิเคชันไทยดี (ThaID) อย่างเป็นทางการ ว่า เป็นสิ่งที่รัฐบาลริเริ่มมาหลายปี และเป็นไปตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ตามที่รัฐบาลประกาศไว้ ซึ่งวันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปเยอะ การอำนวยความสะดวกดังกล่าวจะเป็นการลดอุปสรรคและปัญหา แต่จะต้องมีระบบความปลอดภัยด้วย จึงจำเป็นต้องมีมาตรการควบคุม พร้อมกับการให้บริการ

ดังนั้นอยากเชิญชวนให้ทุกคนมาใช้บริการ ซึ่งมีทั้งส่วนราชการและเอกชน หากเชื่อมโยงกันได้ ก็จะเป็นการลดภาระ และทำให้การเข้าถึงบริการเร็วขึ้น ทั้งนี้ วันนี้ถือเป็นการเปิดอย่างเป็นทางการ ก่อนหน้านี้ได้มีการทดลองใช้มาแล้ว และหลายอย่างต้องมีการปรับปรุงแก้ไข ทั้งกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ ทุกอย่างจะทำอะไรต้องใช้กฎหมายทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม การดำเนินการต้องมีการประชาสัมพันธ์ต่อไป และมีการติดตามประเมินผลด้วย แต่ปัญหาคือการสร้างการรับรู้ต้องฝากสื่อมวลชนให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึง ไม่เช่นนั้นก็จะไปสนใจเรื่องอื่นกันมากกว่า เพราะนี่คือการแก้ไขปัญหาการให้บริการของภาครัฐ ซึ่งรัฐบาลยุคใหม่จะต้องทำงานด้วยระบบดิจิทัลต่างๆ เพราะงานเยอะและซับซ้อน.