เมื่อวันที่ 31 มี.ค. เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจาก นายอำนาจ เชื้อสุข อายุ 56 ปี พักบ้านเลขที่ 64/123 หมู่ 5 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ขอความช่วยเหลือจับงูเหลือมขนาดใหญ่ ลำตัวขนาดเท่าท่อนขาใต้พื้นบ้าน เจ้าหน้าที่รวม 4 นาย จึงไปตรวจสอบ พบงูอยู่ในลักษณะหัวมุดอยู่ในโพรง ลำตัวอยู่ด้านนอก ด้วยงูมีขนาดที่ใหญ่มากทำเอาผู้อยู่ในเหตุการณ์ถึงกับขนลุกขนพอง ซึ่งกู้ภัยได้ทำการดึงตัวงูออกจากโพรงโดยงูยอมให้จับแต่โดยดี แต่เมื่องูสยายตัวออกมีความยาวกว่า 5 เมตร ลำตัวขนาดใหญ่เท่าต้นขา ในท้องเหมือนกินสัตว์เข้าไปอัดแน่นจำนวนหลายตัว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยจับไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ห่างไกลบ้านเรือนประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำเอาเจ้าของบ้านและชาวบ้านต่างสะพรึง เพราะการปรากฏตัวของงูใหญ่ ที่ชาวบ้านต่างเชื่อกันว่า “งูเจ้าที่” สร้างความหวาดกลัวต่อผู้เป็นเจ้าของบ้าน และผู้พักอาศัยใกล้เคียง เนื่องจากเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจาก นายอำนาจ ในการจับงูตัวดังกล่าวแล้วหลายครั้ง หลังพบว่านอนขดตัวอาบแดดอยู่บนพื้นที่บริเวณบ้าน หลังบ้านใกล้เรือนเคียง พบเห็นปรากฏตัวในลักษณะดังกล่าว ก่อนจะเลื้อยเข้าไปในโพรงใต้พื้นบ้านหายไปต่อหน้าต่อตา แม้บางครั้งจะทำการยืนเฝ้าหลังแจ้งกู้ภัยมาจับปล่อยคืนสู่ธรรมชาติก็ตาม แต่เมื่อเจ้าหน้าที่มาก็หาไม่เจอ ไม่สามารถจับตัวออกไปได้ กระทั่งมาครั้งนี้ครบ 1 เดือนพอดี จึงสามารถจับตัวออกไปได้โดยยอมให้จับง่ายๆอย่างที่เห็น

นายอำนาจ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เคยแจ้งเจ้าหน้าที่ไปตั้งแต่เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็หายไปในโพรงใต้บ้าน แต่พอตรวจสอบพบเป็นโพรงตันความลึกราว 2-3 เมตร แต่ไม่พบตัวงู พยายามค้นหา ทั้งนำยาฆ่าแมลงมาฉีดไล่ ตลอดจน ประสานหน่วยป้องกันและบรรเทาสารภัย เทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ นำค้อนปอนด์เข้าดำเนินการทุบพื้นปูนซีเมนต์เพื่อเปิดช่องที่คิดว่างูจะเลื้อยหนีเข้าไปได้ ซึ่งการค้นหานานกว่า 2 ชั่วโมง แต่กับไม่พบงู ซึ่งมีพยานที่พบเห็นถึง 3 ชีวิต ยืนยันว่า เห็นงูเลื้อยเข้าไปในโพรงแน่นอน จึงทำให้ภารกิจค้นหาไล่ล่างูเหลือมยักษ์ตัวนี้ต้องล้มเลิกไปหลายครั้ง และยังคงมีคำถามคาใจทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ว่า งูหายไปไหน หายไปได้เช่นไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเจ้าหน้าที่กำลังนำงูออกไป นายอำนาจ เจ้าของบ้าน ได้เดินเข้ามาตบที่ลำตัวงูเบาๆ พร้อมบอกกล่าวว่า ให้ไปอยู่ในธรรมชาติ ไม่มีเจตนาที่จะทำร้าย หรือลบหลู่แต่อย่างใด หากงูตัวนี้เป็นงูเจ้าที่จริง ก็ขอให้ไปอยู่ในที่ที่ควรอยู่ เพราะการปรากฏตัวให้ผู้คนเห็น และอาศัยอยู่ในพื้นที่บ้านเรือนประชาชนนั้น ได้สร้างความหวาดกลัวไปทั่วทุกหัวระแหง และยอมรับว่า ตลอดระยะเวลาร่วม 1 เดือน ที่งูหายไปใต้พื้นบ้านต้องอยู่อย่างหวาดระแวงกลัวอันตราย วันนี้หลังจากงูออกไปแล้ว รู้สึกมีความโล่งใจอย่างมาก และเชื่อว่าการปรากฏตัวของงูยักษ์ในพื้นที่บ้านครั้งนี้ น่าจะนำพาโชคลาภมาให้ ขณะเดียวกันบรรดาชาวบ้าน เพื่อนบ้านข้างเคียงต่างไม่ลืมพากันมาส่องเลขที่บ้าน อายุเจ้าของบ้านไปเสี่ยงโชคงวดนี้กันตามระเบียบ