เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้เยี่ยมให้กำลังใจและมอบแนวทางการปฏิบัติสู่เป้าหมายเพื่อลงสู่ผู้เรียน ให้คณะทำงานและผู้เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถอดบทเรียนการจัดการเรียนรวมโครงการบูรณาการความร่วมมือพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรวม ณ โรงแรมรอยัลฮิลล์ กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา จ.นครนายก โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมประกอบด้วย ผู้แทนจาก 18 Cluster (Cluster ละ 12 คน) ได้แก่ 1) ผอ.เขต สพป./สพม. 2) ผอ.รร.เรียนรวม สพป./สพม. 3) ศึกษานิเทศก์ สพป./สพม. 4) ผู้อำนวยการโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ 5) ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษ 6) ครู รร. เรียนรวม สพป./สพม. 7) ครูศูนย์การศึกษาพิเศษ จำนวน 216 คน

นางเกศทิพย์ ศุภวานิช กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถอดบทเรียนการจัดการเรียนรวม และถอดบทเรียนการจัดการเรียนรวมที่จะนำไปสู่การสังเคราะห์แนวทางการจัดการที่มีคุณภาพต่อไป พร้อมทั้งหาแนวทางในการลดภาระงานของครูที่ดูแลนักเรียนพิเศษและมอบหมายบทบาทหน้าที่ของครูพี่เลี้ยงให้ตรงตามเป้าหมายของการจัดสรร เพื่อให้ครูพี่เลี้ยงสามารถปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลและพัฒนานักเรียนได้อย่างเต็มศักยภาพ ในส่วนของการขอคูปองการศึกษา (เงินสนับสนุนขอรับสิ่งอำนวยความสะดวก สื่อ บริการ และความช่วยเหลืออื่นๆ ทางการศึกษา) ให้ตรงกับการพัฒนานักเรียนพิเศษ และศูนย์การศึกษาพิเศษต้องเป็นผู้ประสานงานกับโรงเรียนเรียนรวมในการจัดการเรียนรวมในรูปแบบต่างๆ ให้มีความเหมาะสมและสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นจริงในโรงเรียน รวมถึงมีการวัดและประเมินผลด้วยความยืดหยุ่นเหมาะสมกับตัวผู้เรียน ผู้บริหารในโรงเรียนควรมีการวางแผนกระบวนการดำเนินงานใน ว PA เพื่อนำไปสู่การเลื่อนวิทยฐานะของครูบนพัฒนาการของนักเรียนไปด้วยเลย

นอกจากนี้ การสร้างเครือข่ายเป็นบทบาทหน้าที่ของผู้บริหารการศึกษาและผู้บริหารสถานศึกษา โดยทำให้การจัดการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ศูนย์การศึกษาพิเศษมีบทบาทหน้าที่ที่หลากหลาย มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ และช่วยเป็นพี่เลี้ยงในการดำเนินงานการจัดการเรียนรวมในโรงเรียนปกติ โดยผู้บริหารสถานศึกษาคือฟันเฟืองที่สำคัญในการพัฒนาคุณภาพของการศึกษา เพราะต้องเป็นผู้ที่นำคิด พานำ พาทำ ผู้บริหารยุคใหม่ต้องเป็นผู้นำทางวิชาการ ต้องศึกษาพัฒนาให้รู้จริง สามารถแนะนำในสิ่งที่ถูกต้องได้ อธิบายให้ความรู้อย่างชัดเจน และต้องสร้างเครือข่ายให้หลากหลาย ทั้งชุมชน ผู้ปกครอง วัดและหน่วยงานจากภายนอก เพื่อสร้างโอกาสให้นักเรียนในทุกๆ ช่องทาง ทุกๆ มิติ

การสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาให้เกิดขึ้น คือ ‘การสร้างคุณภาพให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน’ ทั้งนี้ ขอชื่นชม ครู ผอ.รร. ทุกๆ ท่าน ที่ให้เด็กมากกว่าการศึกษา ให้โอกาส ให้ความรัก ให้ความหวังกับผู้ปกครอง โดยมีแรงขับที่สำคัญคือความรัก ความสามัคคีกัน ในการพัฒนาเด็กให้ก้าวข้ามความเป็นเด็กพิเศษ นำไปสู่การใช้ชีวิตตามปกติในสังคมได้อย่างมีความปกติสุขต่อไป ในบทบาทหน้าที่ที่ได้รับผิดชอบดูแล สศศ. ได้ตั้งใจมุ่งมั่นว่า “จะช่วยเหลือเด็ก จนไม่มีเด็กให้ช่วยเหลือ” และตามคำขวัญของพวกเราชาว สศศ. ที่ว่า “การศึกษาพิเศษไทย หัวใจนำทาง” รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว