นายชูเฮย์ อาราอิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์ป ไทย จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัท ชาร์ป ไทย จำกัด, บริษัท เอ็นอีซี คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท ชาร์ป ดีเวิร์ส บิสซิเนส โซลูชั่น จำกัด แล้ว ทำให้มีความพร้อมดำเนินธุรกิจด้วยศักยภาพใหม่ โดยชูนโยบายรุกตลาดในนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก 3 จังหวัด ได้แก่ ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา หรือ พื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ด้วยการนำเสนอ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ครอบคลุมการใช้งานสำหรับออฟฟิศ ทั้ง เครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่น เครื่องฉายภาพโปรเจคเตอร์ พีซี มอนิเตอร์ และ ไดนาบุ๊ก แล็ปท็อป ฯลฯ โดยจับกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ในนิคมอุตสาหกรรมอีอีซี ตั้งเป้าจะสร้าง ยอดขายเพิ่มขึ้น 10%
“นอกจากคุณสมบัติของสินค้าที่รองรับทุกความต้องการของลูกค้าแล้ว ยังประหยัดพลังงาน เชื่อมต่ออัปโหลดไฟล์เข้าคลาวด์ได้ และระบบรักษาความปลอดภัยที่สามารถตรวจจับไวรัสจากการใช้งานได้ นอกจากนี้ยังมีความมั่นใจในตัวแทนจำหน่าย ที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี และบริการหลังการขาย ครอบคลุมพื้นภาคตะวันออก ลูกค้าจะได้รับการแก้ปัญหาภายใน 4 ชั่วโมง”
นายชูเฮย์ กล่าวต่อว่า จากข้อมูลต่างๆ ทั้งนโยบายของรัฐบาล รวมถึงการเข้ามาลงทุนของผู้ประกอบการจากต่างประเทศที่ปรากฏให้เห็นเป็นรูปธรรม เช่น บริษัท บีวายดี บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของจีน เข้าลงทุนตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และหรือบริษัท อเมซอน เว็บ เซอร์วิส ผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ ตัดสินใจลงทุนครั้งสำคัญในไทย และเตรียมต่อยอดลงทุนระยะยาวอีกเกือบสองแสนล้านบาท เป็นต้น
ประกอบกับนโยบายหลักของ อีอีซี คือ การพัฒนาอีอีซี ให้เป็นต้นแบบการพัฒนาที่ยั่งยืน และเป็นเป้าหมายของนักลงทุนนานาชาติ และมีการตั้งเป้าหมายสร้างรายได้ 2.2 ล้านล้าน ภายใน 5 ปี (2565-2570) ปัจจัยเหล่านี้ ทำให้บริษัทมั่นใจศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ และความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับสำนักงานจำนวนมาก มั่นใจว่าสามารถขยายตลาดตามเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน