เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ว่า ได้รับความเดือดร้อนจากฝูงหมากว่า 100 ตัว ที่ถูกขังอยู่รั้วบ้านซึ่งเจ้าของเพิ่งย้ายมาอยู่ได้ไม่นานนัก ก็นำสุนัขมาปล่อยไว้ แม้จะสร้างรั้วมิดชิด แต่ก็สร้างความเดือดร้อนให้ตลอดเวลา
นางสาคร บอกว่า ก่อนหน้านี้ ก็อาศัยอยู่ที่บ้าน อย่างปกติสุข แต่พอข้างบ้านมีการสร้างรั้วกำแพงสองชั้น ชั้นแรกเป็นลวดหนาม และมีสังกะสีปิดอีกชั้น พอสร้างรั้วเสร็จ ก็นำสุนัขมาปล่อย ตอนดึกคาดว่าน่าจะมากกว่า 100 ตัว แรกๆ มีคนดูแล สุนัข 2 คน คอยให้อาหาร เสียงเห่าหอน ดังตลอดเวลา กลางคืนก็นอนไม่หลับ นานเข้าก็เริ่มมีกลิ่นเหม็นตามมา และเมื่อมีสุนัขหลุดออกมา ก็จะเข้ามาอยู่ที่บ้านตนเอง จนต้องนำตาข่ายมาล้อมรอบบ้านป้องกันไม่ให้สุนัขเข้ามา เพราะทุกตัวมีกลิ่นเหม็นทุกวันนี้ ไม่กล้ากินข้าวในบ้าน เพราะกลิ่นเหม็นมาก เวลานอนก็นอนไม่หลับเพราะมีเสียงเห่าหอน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยแก้ไข ให้หายเหม็น หรือไม่ก็ย้ายสุนัขออกไปจากชุมชน
ด้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านบ่อยครั้ง ก็ต้องมาช่วยดูแล ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเจ้าของสุนัขเลี้ยงไว้ในรั้วบ้าน แต่ก็มีสุนัขที่ขุดรูหนีออกมา บางตัวมีบาดแผลเน่าหนอนขึ้น พอเข้ามานอนในบ้านซึ่งเป็นบ้านของคนอื่น ชาวบ้านเขาก็เดือดร้อน เพราะทั้งน้ำเหลือง ทั้งหนอน หล่นใส่ในบ้าน ต้องเช็ดถู บางบ้านต้องรีบทำกำแพงกั้น บางบ้านบอกว่า จะขายบ้านหนี
ขณะที่ผู้ดูแลสุนัขทั้งหมด ยอมรับว่า มีอยู่จำนวน 180 ตัว สุนัขทั้งหมดเป็นของคลินิกสัตวแพทย์แห่งหนึ่ง ที่กรุงเทพฯ ซึ่งรับสุนัขจรจัดและสุนัขที่ถูกทิ้งรวมถึงสุนัขที่ประชาชนนำมารักษา และไม่นำกลับ ก็รับมาดูแลไว้ที่นี่ ซึ่งมีพื้นที่ 2 ไร่ มีรั้ว 2 ชั้น ป้องกันไม่ให้สุนัขหลุดออกไป สุนัขทุกตัวมีทีมสัตวแพทย์ดูแล ส่วนที่ชาวบ้านแจ้งว่า สุนัขป่วยออกไปสร้างความเดือดร้อน ก็ยอมรับว่า มีสาเหตุมาจากครั้งแรก เจ้าของคลินิกจ้างคนมาดูแล 2 คน ซึ่งทั้ง 2 คนเพิ่งจะลาออกไป ตนเองจึงมารับหน้าที่แทน ทำให้ยังไม่คุ้นกับสุนัขทุกตัว เมื่อหลุดออกนอกรั้ว ก็ไม่สามารถตามจับกลับมาได้ จึงกำลังประสานกับทางทีมที่กรุงเทพฯ ให้นำยาสลบมายิง เพื่อติดตามสุนัขที่เล็ดลอดกลับมารับการรักษา ต่อไป.