เมื่อวันที่ 14 ก.ค. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) เปิดเผยว่า กรณีการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 ก.ค. หลังจากที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล ที่ถูกเสนอชื่อเพียงคนเดียวนั้น ยังไม่สามารถรวบรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา ส.ส.พรรค ทสท. ทั้ง 6 คน ได้ทำการโหวตเลือกตามมติของพรรคร่วมทั้ง 8 พรรคแล้ว ในฐานะของผู้ประสานงานคณะเปลี่ยนผ่านนั้น ก็จะต้องมีการหารือร่วมกันระหว่างแปดพรรค ซึ่งน่าจะมีการนัดหมายกันอีกในไม่ช้า

นายฐากร กล่าวว่า ในส่วนจุดยืนของพรรค ทสท. นั้น ขอให้ความชัดเจนว่าการโหวตครั้งต่อไปที่จะมาถึง พรรค ทสท. จะเดินหน้าตามมติของทั้ง 8 พรรคต่อไป แม้จะเป็นพรรคเล็กที่มีเพียง 6 เสียง โดยไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในตัวแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ทั้ง 8 พรรค ต้องตกลงกัน แต่ยังยืนยันพรรคร่วมทั้ง 8 พรรค ยังจะจับมือกันตลอดไปตามเอ็มโอยูที่ได้ลงไว้ต่อหน้าประชาชน  

นายฐากร กล่าวว่า ในประเด็นของการโหวตที่ผ่านมา ตนยังมองโลกในแง่บวก และถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ ส.ว. จำนวนหนึ่งยังสนับสนุนให้นายพิธา เป็นนายกฯ และตนเชื่อว่าหากพรรคร่วมทั้ง 8 ยังยืนยันตามมติและอธิบายสร้างความเข้าใจ และชี้แจงประเด็นข้อสงสัยต่างๆ ให้กับรัฐสภาต่อไป อาจจะได้รับเสียงจาก ส.ว. หรือพรรคอื่นๆ ที่เห็นความตั้งใจและต้องการเห็นประเทศชาติเดินหน้าต่อ เปลี่ยนใจมาโหวตให้ก็เป็นไปได้ ไม่ว่าจะต้องโหวตอีกกี่ครั้งก็ตาม

“ให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่คาดหวังให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลใหม่โดยเร็ว ว่าพรรค ทสท. ยืนยันที่รักษาระบอบประชาธิปไตยเอาไว้ โดยเคารพความต้องการของประชาชนที่เลือกเข้ามา และพรรคร่วมทั้ง 8 พรรค จะจับมือร่วมกันตลอดไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพื่อให้ประเทศไทยและระบอบประชาธิปไตย เดินหน้าต่อไปได้ และขอบคุณพี่น้องประชาชน ที่ส่งกำลังใจให้กับพรรคไทยสร้างไทย และพรรคร่วมทั้งหมด เดินหน้าร่วมกันต่อไป” นายฐากร กล่าว.