เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2566 เป็นวันที่อุณหภูมิในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ไต่สูงเลยจุด 110 องศาฟาเรนไฮต์ (ราว 43.3 องศาเซลเซียส) นับเป็นวันที่ 16 แล้ว ที่เมืองตกอยู่ในความร้อนระดับนี้อย่างต่อเนื่อง โดยระดับอุณหภูมิเฉลี่ยโดยรวมคือ 100.6 องศาฟาเรนไฮต์ (ราว 38.1 องศาเซลเซียส)
สภาเมืองฟีนิกซ์พยายามหาทางลดอุณหภูมิที่ร้อนระอุของเมือง และหนึ่งในมาตรการนั้นก็คือการจัดการหน้าถนนเสียใหม่ ด้วยโครงการ ‘คูล เพฟเมนต์’ ซึ่งวิศวกรอธิบายว่า ตามหลักการแล้วก็เหมือนกับการ “ทาครีมกันแดด” ให้ผิวถนน ด้วยการทาสีในเฉดสีอ่อนเคลือบหน้าถนนทั้งหมด เพื่อสะท้อนแสงแดดกลับออกไป และช่วยทำให้ถนนอมความร้อนไว้น้อยกว่าผิวถนนที่ราดแอสฟัลต์ตามปกติ
ข้อมูลอย่างเป็นทางการระบุว่า ในตอนเที่ยงซึ่งเป็นเวลาที่แสงแดดแผดกล้ามากที่สุด ถนนที่ทาสีอ่อนเหล่านี้จะมีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำกว่าถนนทั่วไปที่ไม่ได้ทาสีถึง 10.5-12 องศาฯ โดยเฉลี่ยแล้ว การทาสีแบบนี้จะช่วยให้ถนนเย็นลงประมาณ 4.8 องศาฯ
เจ้าหน้าที่จากสภาเมืองกล่าวว่า พวกเขาหวังว่าโครงการนี้จะช่วยบรรเทาปรากฏการณ์ ‘โดมความร้อน’ ในเมือง ซึ่งเกิดจากการที่พื้นผิวอาคารและสิ่งก่อสร้างที่สร้างจากวัสดุแข็ง เช่น หิน, คอนกรีต ดูดซับความร้อนในระหว่างวันเอาไว้ แล้วคายออกมาในตอนกลางคืน ทำให้ช่วงกลางคืนมีอุณหภูมิสูงมาก
สำหรับอุณหภูมิเฉลี่ยในช่วงกลางคืน ที่ระดับความสูงเหนือพื้น 6 ฟุต เหนือถนนที่ทาสีอ่อน จะต่ำกว่าอุณหภูมิของถนนทั่วไปราว 1 องศาฯ
ไรอัน สตีเวนส์ ผู้จัดการวิศวกรประจำเมืองกล่าวว่า ตัวเขาเองเป็นคนท้องถิ่น จึงให้ความสำคัญต่อการทำให้เมืองเย็นลงด้วยนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อต่อสู้กับความร้อนที่จะยังคงอยู่คู่เมืองฟีนิกซ์ไปอีกหลายสิบปี หรือเป็นศตวรรษ
อย่างไรก็ตาม ชาวเมืองฟีนิกซ์เองกลับมีความเห็นแตกต่างกันไป บ้างก็เห็นด้วยและบางคนก็ไม่ชื่นชมเท่าไหร่นัก สตีเวนส์ กล่าวว่า เนื่องจากสีที่ทาถนนไม่ใช่เฉดสีของถนนทั่วไป ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อชาวเมืองที่อ่อนไหวเรื่องความสวยงาม และบางคนก็ไม่ชอบสีเฉดที่ทาผิวถนน ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีชาวเมืองมาถามเขาเรื่อย ๆ ว่า เมื่อไหร่จะไปทาสีที่ถนนแถวบ้านของพวกเขาบ้าง
ปัจจุบันนี้ เมืองฟีนิกซ์ทาสีทับหน้าถนนในเมืองไปแล้วราว 100 ไมล์ (ประมาณ 160 กม.) โดยมีเป้าหมายที่จะทาสีให้ได้ 118 ไมล์ (ราว 190 กม.) ภายในปีสิ้นปีนี้
ที่มาและเครดิตภาพ : foxweather.com