สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ว่า ร้านค้าสวอตช์ในห้างสรรพสินค้า 11 แห่งทั่วมาเลเซีย ถูกตรวจค้นเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา โดยหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของกระทรวงมหาดไทยมาเลเซีย ระบุว่า พวกเขายึด “นาฬิกาข้อมือที่มีองค์ประกอบของเพศทางเลือก”

นายนิซาม บาชีร์ ทนายความของสวอตช์ กล่าวว่า คดีดังกล่าว ซึ่งยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา จะได้รับการพิจารณาที่ศาลสูงกรุงกัวลาลัมเปอร์ ในวันพฤหัสบดีนี้ (20 ก.ค.) โดยมีกระทรวงมหาดไทยมาเลเซีย และรัฐบาลกัวลาลัมเปอร์เป็นจำเลย

อนึ่ง สวอตช์ ระบุว่า การดำเนินการยึดนาฬิกาข้อมือสีรุ้ง สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงทางการค้าของบริษัท พร้อมกับยืนยันว่า นาฬิกาข้อมือคอลเลกชั่นนี้ ไม่ได้สนับสนุนกิจกรรมทางเพศใด ๆ แต่เป็นเพียงการสื่อถึงสันติภาพ กับความรักที่สนุกสนานรื่นเริง

ในส่วนของการเรียกร้องความเสียหาย สวอตช์ กล่าวว่า ตัวเลขทางธุรกิจและการค้าของบริษัทได้รับผลกระทบโดยตรง หลังนาฬิกาข้อมือถูกยึดไประยะหนึ่ง ซึ่งบริษัทต้องการให้ทางการมาเลเซียคืนนาฬิกา 172 เรือน มูลค่ารวม 14,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 480,000 บาท) จากคอลเลกชั่นไพรด์ที่มีสีรุ้ง

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงหมาดไทยของมาเลเซียคนหนึ่ง ซึ่งไม่ประสงค์ออกนาม กล่าวในเดือน พ.ค. ว่า นาฬิกาข้อมือเหล่านี้มีตัวอักษร “LGBT” และไม่ได้มี 7 สีตามสีรุ้ง แต่มีเพียง 6 สี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชุมชนเพศทางเลือกที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก

แม้ในรายละเอียดในหมายเรียกต่อร้านค้าสวอตช์ระบุว่า การยึดนาฬิกาข้อมือดำเนินการตามพระราชบัญญัติการพิมพ์และสิ่งพิมพ์ ปี 2527 แต่บรรดานักวิจารณ์ต่างประณามว่า มันเป็นกฎหมายที่รุนแรงเกินความจำเป็น

สำหรับมาเลเซีย ชุมชนเพศทางเลือกในประเทศประสบปัญหาการเลือกปฏิบัติมาเป็นเวลานาน ซึ่งการรักร่วมเพศในประเทศ เป็นสิ่งต้องห้าม และผู้ที่ฝ่าฝืนอาจถูกจำคุก หรือถูกลงโทษทางกาย.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES