เมื่อวันที่ 19 ก.ค. นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล  ให้สัมภาษณ์ภายหลังที่ประชุมร่วมรัฐสภามีมติไม่เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ โหวตนายกรัฐมนตรีรอบ 2  ซึ่งจะให้พรรคเพื่อไทยที่เป็นพรรคลำดับที่ 2 เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเลยหรือไม่ว่า ยังต้องมีการพูดคุยกันก่อน และเชื่อว่าคงใช้เวลาในการพูดคุยไม่นาน เพราะมองว่า การได้นายกรัฐมนตรีเร็วที่สุด จะดีที่สุด  

นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า มติที่ประชุมรัฐสภาที่ออกมานั้น ไม่ได้เกินกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ และหลังจากนี้ พรรคก้าวไกล จะประชุมหารือกันก่อนที่จะแถลงท่าทีอีกครั้ง  ส่วนกำลังใจของนายพิธา ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งมีคำสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ ส.ส.จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัยในคดีการถือครองหุ้นไอทีวีนั้น นายชัยธวัช เชื่อว่า นายพิธา ยังมีกำลังใจที่ดีเต็มร้อย

เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกล จะแก้เกมหลังถูกเดตล็อคทางการเมืองทั้งหมดอย่างไรนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า จะต้องหารือภายในพรรคก่อนว่า จะทำอย่างไรหลังจากนี้ และยังไม่ได้มีการพูดคุยว่า จะไปยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความการลงมติของรัฐสภาดังกล่าวหรือไม่

ด้านนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล  ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นายพิธาหยุดปฎิบัติหน้าที่ส.ส. ว่า ยังไม่ได้คุยกัน แต่นายพิธายังกำลังใจดี หลังจากนี้พรรคก้าวไกลต้องไปหารือกันอีกครั้งก่อน

ส่วนที่กรณีนายพิธา ระบุจะเปิดทางให้พรรคเพื่อไทย หากพรรคก้าวไกลตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ มีกำหนดระยะเวลาเมื่อใดนั้น นายพิจารณ์ บอกว่า จริงๆวันนี้ตั้งใจจะมาให้เกิดการลงมติว่าเสนอชื่อนายพิธา แต่ปรากฏว่ากระบวนการเสนอชื่อนายพิธายังไม่เกิดขึ้น กลายเป็นการตีความการเสนอชื่อเป็นญัตติ จนมีการลงมติอย่างที่เห็น ก็ต้องอธิบายกับประชาชนว่า กระบวนการที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่ใช่กระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรี แต่เกิดจากการตีความว่า การเสนอชื่อนายพิธาเป็นนายกฯ เป็นญัตติตามข้อบังคับที่ 41 ซึ่งข้อบังคับบอกว่าถ้าญัตติใดตกไปแล้วไม่สามารถจะเสนอช้ำในสมัยประชุมได้ เว้นแต่ประธานจะวินิจฉัยว่าเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงไปจึงจะเสนอได้ 

“แต่เมื่อมีการตีความแบบนี้ ที่ประชุมลงคะแนนแล้ว ก็ปิดประชุมทันที ยังไม่ได้เข้าสู่การเสนอชื่อนายพิธา เป็นนายกฯ แล้วประธานจะวินิจฉัยว่ามีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ มันก็คล้ายๆกับยังไม่เสร็จสิ้นกระบวนการ ยังไปไม่ถึงการเสนอชื่อนายพิธา แล้วมีการลงมติ นี่คือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ส่วนหลังจากนี้ก็คงต้องพูดคุยกันภายในพรรค อาจเป็นพรุ่งนี้ ตอนนี้โทรหานายพิธาก็ยังไม่รับสาย จึงยังไม่ได้พูดคุยกัน” นายพิจารณ์ กล่าว