สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอาบูจา ประเทศไนจีเรีย เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ว่า ประชาคมเศรษฐกิจแอฟริกาตะวันตก (อีโควาส) ออกแถลงการณ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่าคณะรัฐประหารไนเจอร์ต้องคืนอำนาจให้แก่รัฐบาลพลเรือนที่ชอบธรรม ของประธานาธิบดีโมฮาเหม็ด บาซูม ภายใน 7 วัน มิเช่นนั้น อีโควาสจะใช้ “มาตรการที่จำเป็นตามกรอบของกฎหมาย” เพื่อฟื้นฟูอำนาจตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจรวมถึง “การใช้มาตรการทางทหาร”
Communique Final – Cinquante-Et-Unième Sommet Extraordinaire de la Conférence des Chefs d’Etat et de Gouvernement de la CEDEAO sur la Situation Politique au Niger…https://t.co/3MiG7Gqscn pic.twitter.com/dmleye1wEl
— Ecowas – Cedeao (@ecowas_cedeao) July 30, 2023
Putsch au Niger: Emmanuel Macron menace de "répliquer" face à toute "attaque contre la France et ses intérêts" pic.twitter.com/AxC02deXpc
— BFMTV (@BFMTV) July 30, 2023
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจน ว่าอีโควาสซึ่งปัจจุบันมีสมาชิก 15 ประเทศ จะใช้มาตรการทางทหารในรูปแบบใด แม้สมาชิกเห็นชอบจัดตั้ง “กองกำลังความมั่นคงร่วม” เพื่อรักษาเสถียรภาพภายในภูมิภาค รวมถึง “เพื่อรับมือ” กับการเกิดรัฐประหาร แต่รายละเอียดยังเบาบางมาก

นอกจากคำเตือนเรื่องการเตรียมใช้มาตรการทางทหาร อีโควาสประกาศคว่ำบาตรสมาชิกทั้งหมดในคณะรัฐประหารของไนเจอร์ และระงับช่องทางการทำธุรกรรมทั้งหมดระหว่างไนเจอร์ กับสมาชิกอีโควาสที่เหลือ แต่ยังไม่มีการระงับสถานภาพสมาชิกของไนเจอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศยากจนที่สุดของโลก และอยู่ในอันดับรั้งท้าย ของการจัดอันดับดัชนีการพัฒนามนุษย์โดยสหประชาชาติ (ยูเอ็น)
I strongly welcome and support the leadership of ECOWAS Heads of State and Governments to defend constitutional order in Niger. The legitimate, democratically-elected government must be reinstated immediately.
— Secretary Antony Blinken (@SecBlinken) July 30, 2023
ด้านคณะรัฐประหารไนเจอร์ออกแถลงการณ์ประณามอีโควาส ว่าเตรียมแทรกแซงกิจการภายในของไนเจอร์ โดยร่วมมือกับ “บางประเทศในแอฟริกา” ที่ไม่ใช่สมาชิกอีโควาส และ “ประเทศตะวันตกบางแห่ง” โดยในเวลาเดียวกัน มวลชนฝ่ายสนับสนุนกองทัพ ซึ่งมีการโบกธงชาติรัสเซียด้วย บุกจู่โจมสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำกรุงนีอาเม เรียกเสียงประณามอย่างหนักจากฝรั่งเศส ส่วนสหรัฐยืนยัน การสนับสนุนบาซูม ในฐานะผู้นำอันชอบธรรม.
เครดิตภาพ : AFP