เคยตกเป็นข่าวใหญ่โต คดีถูกลอตเตอรี่ทิพย์ จนโดนต้นสังกัดเก่ายกเลิกสัญญาแบบฟ้าผ่า ล่าสุดพระเอกสายบู๊ บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ เดินหน้าเป็นนักแสดงอิสระ ซุ่มรับงานละครฟอร์มใหญ่ช่องดังเพียบ แถมยังผันตัวทำเพลงเอง แนวฉบับฮอตฮิตลูกทุ่งอีสาน ซิงเกิ้ลเพลง “เจ็บแล้วเจ็บอีก” พร้อมมาเปิดใจย้อนเล่าถึงวิกฤติชีวิต ผ่านรายการโต๊ะหนูแหม่ม ถึงวันที่ไร้งานไร้สังกัด และจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิต ที่ทำให้ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้

บิ๊กเอ็ม เผยว่า “เรื่องโดนยกเลิกสังกัด ตอนนั้นผมไปเที่ยวกับคุณแม่ที่แก่งกระจาน เริ่มมีข่าวออกมาแล้ว ผมก็ยังเที่ยวกับคุณแม่ ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย คิดว่าคงไม่มีอะไรหรอกมั้ง สักพักหนึ่งก็เริ่มมีโทรศัพท์โทรฯ เข้ามาหาคุณแม่เยอะขึ้นๆ เครียดจนขนาดที่ว่าไปเที่ยวทริปนั้นไม่มีความสุขเลย แล้วแม่ก็เข้าไปหลบในรถแล้วก็ร้องไห้ ข้าวก็ไม่กิน แล้วก็เที่ยวด้วยน้ำตา พอกลับมาก็เป็นข่าวใหญ่โตเลย แต่ก็ผ่านมันมาได้ ทำให้เราต้องคิดเรื่องรับงาน และไว้ใจคนรอบข้างมากยิ่งขึ้น เรื่องร้องเพลง คือผมเป็นคนที่ชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กแล้ว เวลาไปอีเวนต์หรือไปโชว์ตัว จะได้ออกไปร้องเพลงเยอะมาก ได้ไปคอนเสิร์ตเยอะมาก การแสดงผมมาทีหลัง ถ้าถามถึงพรสวรรค์ของผมแต่เด็กเลยคือผมชอบร้องเพลงมากกว่ามาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่มีใครรู้ครับ ที่ผ่านมาที่ผมร้อง จะเป็นเพลงประกอบละคร อันนี้เป็นซิงเกิ้ลเดี่ยวทื่ทำขึ้นมาใหม่หมดเลย เป็นเพลงแนวอีสานร่วมสมัย ดนตรีทันสมัย แต่เนื้อเพลงจริงๆ เป็นเพลงอีสาน”

“ชีวิตตอนนี้ ผมกำลังจะเปิดกล้องนะครับ มีงานละคร 2 เรื่อง และเมื่อวานก็เพิ่งมีติดต่อมาอีกเรื่องหนึ่ง เป็นฟอร์มใหญ่หมดเลย สำหรับเรื่องงานเพลงก็มีแพลนที่อยากจะทำเพิ่มเหมือนกัน ก็กำลังดูแนวๆ กันอยู่ เรื่องสายมูผมคิดว่าของผมน่าจะไปตรงกับพ่อพระพิฆเนศ เพราะว่าองค์พ่อเคยช่วยชีวิต เคยเปลี่ยนชีวิตผมมาแล้ว ก่อนจะเข้าวงการเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ก่อนที่จะเข้าสู่วงการบันเทิง ผมทำงานบริษัทมาก่อน แล้วผมก็มีความจำเป็นที่ต้องออกจากงาน เพราะว่างานในวงการมันเริ่มเข้ามาเยอะแล้ว ตอนนั้นยังเป็นแค่นายแบบอยู่ ก็เลยตัดสินใจ แล้วตอนนั้นเป็นเดือนสุดท้ายที่ผมจะต้องทำงาน เราก็เลยไปขอพระพิฆเนศที่ห้วยขวาง ไปแบบงงๆ เลย ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าเทพฮินดูคืออะไร ตอนนั้นไปกินแล้วก็เลยลองแวะดูไปไหว้ ตอนนั้นเงินเหลือติดในบัญชีอยู่ 5,000 อีกสัก 4วัน จะถึงสิ้นเดือนแล้ว ทีนี้ผมไปเจอพระพิฆเนศองค์หนึ่ง เป็นองค์เล็กๆ องค์หนึ่ง แล้วผมอยากได้มาบูชา ราคาองค์ประมาณสี่พันนิดๆ ก็คิดว่าถ้าบูชาไปต้องไม่มีเงินกินแน่นอน ก็เดินวนอยู่ตรงนั้นประมาณสองสามรอบ จนคนขายเขาก็บอกว่าเอาไปเถอะ พ่อเลือกแล้วเนี่ย เอาไปบูชาเถอะ ก็เลยตัดสินใจลองเสี่ยงดู กำเงิน 5,000 จัดเลยบูชากลับมา แล้วมาไหว้ที่บ้าน หลังจากนั้นผมไปแคสงานโฆษณาแล้วก็ได้เลย ตอนนั้นค่าตัว 80,000 บาท”