สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ เดินทางมายังศาลรัฐบาลกลาง ในกรุงวอชิงตัน เมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาที่นายแจ็ค สมิธ ที่ปรึกษาพิเศษของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องอดีตผู้นำสหรัฐ 4 ข้อหา ฐาน “พยายามแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดี” เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2563


ทั้งนี้ 4 ข้อหาดังกล่าว ประกอบด้วย การสมคบคิดเพื่อฉ้อโกงต่อรัฐบาลสหรัฐ การสมคบคิดเพื่อขัดขวางกลไกการดำเนินงานของรัฐ การขัดขวางและพยายามขัดขวางการดำเนินงานของรัฐ และการสมคบคิดเพื่อละเมิดสิทธิ แน่นอนว่า ทรัมป์ให้การปฏิเสธต่อข้อกล่าวหาทั้งหมด ขณะที่ศาลกำหนดวันไต่สวนครั้งต่อไป คือวันที่ 28 ส.ค. ที่จะถึง


หลังจากนั้น อดีตผู้นำสหรัฐออกมากล่าวกับบรรดาผู้สนับสนุนที่มารอให้กำลังใจอยู่ด้านนอกศาล ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้น “เป็นการประหัตประหารทางการเมืองอย่างแท้จริง” ต่อตัวเขา ซึ่งมีคะแนนนิยมนำเหนือคู่แข่งทุกคนในการเลือกตั้งระดับไพรมารีของพรรครีพับลิกัน และเหนือประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำคนปัจจุบัน


เนื้อหาตอนหนึ่งของสำนวนระบุว่า ทรัมป์เจตนาเผยแพร่เนื้อหาอันเป็นเท็จซ้ำแล้วซ้ำเล่า “เพื่อให้เสมือนว่าเป็นความจริง” ว่าตัวเองคือผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี จนนำไปสู่การจลาจลที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง อดีตผู้นำสหรัฐพ่ายแพ้ให้แก่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำคนปัจจุบัน จากพรรคเดโมแครต


อนึ่ง กระทรวงยุติธรรมสหรัฐยื่นฟ้องทรัมป์ เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมาด้วย เกี่ยวกับการจัดเก็บและครอบครองเอกสารลับโดยไม่ได้รับอนุญาต และการขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ซึ่งมีบทลงโทษจำคุกเป็นเวลานานสูงสุด 20 ปี โดยสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) เข้าตรวจค้นและยึดคืนเอกสาร ซึ่งมีการซุกซ่อนไว้ตามพื้นที่หลายจุด ภายในคฤหาสน์ที่เมืองมาร์-อา-ลาโก ที่เมืองปาล์มบีช ในรัฐฟลอริดา เมื่อเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว ทำให้ทรัมป์เป็นอดีตผู้นำสหรัฐคนแรก ซึ่งถูกดำเนินคดีอาญา.

เครดิตภาพ : AFP