สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ว่า การเสียชีวิตอย่างลึกลับดังกล่าว เป็นที่สนใจของสาธารณชนมากขึ้น หลังตำรวจเข้าตรวจจุดทิ้งขยะในพื้นที่ เพื่อค้นหาเครื่องดูดความชื้นในอาหาร เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งมีการเชื่อกันว่า มันถูกใช้ในการเตรียมอาหารกลางวันที่เป็นอันตรายถึงชีวิต

ก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์ ตำรวจสอบปากคำหญิงวัย 48 ปี คนหนึ่ง ที่เป็นผู้เสิร์ฟอาหารกลางวัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กล่าวว่า พวกเขาไม่พบพิรุธ และปล่อยตัวเธอไปโดยไม่ตั้งข้อหาใด ๆ

ABC News In-depth

ตำรวจและสื่อท้องถิ่นของออสเตรเลีย ระบุว่า ผู้หญิงคนดังกล่าวดูแลนางเกล แพตเทอร์สัน และนายดอน แพตเตอร์สัน แม่ยายกับพ่อตาของเธอ วัย 70 ปี ซึ่งทั้งคู่เสียชีวิตที่โรงพยาบาล หลังรับประทานอาหารกลางวัน เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ในเมืองลีออนกาธา

นอกจากนี้ ผู้รับประทานอาหารกลางวันยังมีอีก 2 คน ได้แก่ นางเฮเธอร์ วิลกินสัน น้องสาวของนางเกล แพตเทอร์สัน วัย 66 ปี ซึ่งเสียชีวิตเช่นกัน ส่วนนายเอียน วิลกินสัน สามีของเธอ วัย 68 ปี ยังอยู่ในภาวะวิกฤติ และกำลังรักษาตัวในโรงพยาบาล

ผู้เชี่ยวชาญแสดงตัวอย่างเห็ดระโงกหิน ซึ่งเป็นเห็ดพิษ ภายในพื้นที่เพาะปลูกเพื่อการวิจัย ของสวนพฤกษศาสตร์หลวง ที่เมืองเมลเบิร์น ออสเตรเลีย

ทั้งนี้ นักสืบทำการค้นบ้านของผู้หญิงที่เสิร์ฟอาหาร และนำสิ่งของไปหลายอย่าง โดยหนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิง เฮรัลด์ รายงานว่า ตำรวจกำลังดำเนินการทดสอบทางนิติวิทยาศาสตร์กับเครื่องดูดน้ำ ออกจากอาหารที่พวกเขาพบในหลุมฝังกลบบริเวณใกล้เคียง เพื่อดูว่ามันมีความเชื่อมโยงกับคดีนี้หรือไม่

ด้านเจ้าหน้าที่ ดีน โทมัส สารวัตรสืบสวนของตำรวจรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า มันยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ผู้เคราะห์ร้ายรับประทานเห็ดชนิดใด แต่อาการของพวกเขาสอดคล้องกับผู้ที่รับประทาน “เห็ดระโงกหิน” ซึ่งเป็นสายพันธุ์เห็ดที่มีพิษร้ายแรงถึงชีวิต อีกทั้งการสอบสวนครั้งนี้น่าจะใช้เวลานาน เนื่องจากความซับซ้อนของคดี

แม้การเสียชีวิตจากการรับประทานเห็ด เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นค่อนข้างยากในออสเตรเลีย ทว่าเหตุสลดครั้งล่าสุดนี้ ทำให้ผู้สันทัดกรณีด้านสุขภาพทั่วประเทศ เตือนประชาชนไม่ให้เก็บเห็ดป่า และซื้อเห็ดจากผู้ขายที่น่าเชื่อถือเท่านั้น.

เครดิตภาพ : AFP