เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ได้มีชาวบ้านหมู่ที่ 10 ต.สะเดียง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ถ่ายภาพติดคล้ายผีเปรตตามตำนานและเรื่องราวที่เล่าๆ กันมา ซึ่งมีลักษณะตัวสูงกว่าต้นไม้ มีแสงไฟ 2 ดวง สีแดงก่ำ คล้ายดวงตา เมื่อนำไปให้เพื่อนบ้านดู บางรายก็ว่าเป็น ผีเปรต ส่วนคนที่ไม่เชื่อ ก็บอกว่าเป็นนกเค้าแมว จึงได้เดินทางไปยังจุดที่ถ่ายภาพดังกล่าว ซึ่งอยู่บริเวณหน้าวัดสนามบิน ต.สะเดียง

น.ส.อารียา บัวอินทร์ อายุ 27 ปี ผู้ที่ถ่ายภาพดังกล่าว เปิดเผยว่า ตามปกติ ตนก็ไม่เชื่อเรื่องผีสางเทวดาอยู่แล้ว ในวันเกิดเหตุเป็นคืนวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา เวลาเกือบเที่ยงคืน ขณะที่ตนกำลังจะนอน แต่ลูกชายวัย 3 ขวบ ไม่ยอมนอนหลับ ตนจึงแกล้งพูดว่าถ้าไม่นอนผีเปรตจะมาเอาตัวไปนะ แต่แล้วจู่ๆ ลูกชายก็พูดขึ้นมาว่าผีเปรตมาโน่นแล้ว ซึ่งก็ไม่ได้เอะใจ เพราะลูกชายเป็นคนที่ชอบดูหนังผี ชอบดูรูปภาพเกี่ยวกับผี แต่ก็ได้ลองหันไปดูทางหน้าต่างก็พบว่า มีดวงไฟสีแดง 2 ดวงขนาดใหญ่ คล้ายดวงตาผีที่เห็นในหนัง และมีลักษณะโยกไป โยกมา จึงได้นำโทรศัพท์มาถ่ายรูปและคลิปไว้ สักพักดวงไฟดังกล่าวก็หายไปแล้ว

ในช่วงเช้าตนจึงนำภาพออกมาดูอีกครั้ง แต่เนื่องจากภาพค่อนข้างมืด จึงได้เพิ่มแสงเพื่อให้มองชัดขึ้น ก็พบว่ามีลักษณะคล้ายกับผีเปรตในหนังที่ตัวสูงๆ จึงได้นำภาพดังกล่าวไปให้เพื่อนบ้านดู ซึ่งเพื่อนบ้านหลายรายก็ยืนยันว่าเป็นผีเปรตจริงๆ เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นป่าหลังบ้าน ไม่มีดวงไฟอะไรอยู่เลย และก่อนหน้านั้นก็ได้มีสุนัขหอนต่อเนื่องกันมาหลายวันแล้ว

นางละเอียด นาคแพง อายุ 77 ปี ซึ่งอยู่บ้านใกล้เคียง เปิดเผยว่า ตนเชื่อว่าภาพถ่ายดังกล่าวเป็นผีเปรตอย่างแน่นอน เพราะบริเวณพื้นที่หมู่บ้านแห่งนี้เป็นป่าช้าเก่า สมัยก่อนมีการฝังศพเป็นจำนวนมาก และเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ตนก็เคยเห็นผีเปรตกับตาตัวเอง ในขณะที่กำลังจะเข้านอน ได้มองไปทางด้านวัดสนามบิน ซึ่งเป็นวัดประจำหมู่บ้าน ก็ได้เห็นเงาของผีเปรตค่อยๆ สูงขึ้นๆ จึงรีบเรียกสามีให้มาดู แต่พอตนละสายตา และหันกลับมามองอีกครั้ง ก็ได้หายไปแล้ว ตนจึงรีบวิ่งเข้าห้องนอนทันที

ด้าน พระรณ พระลูกวัดสนามบิน เปิดเผยว่า ภาพที่เห็นจะเป็นอื่นไปไม่ได้ อีกทั้งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เวลาประมาณตีสองกว่าๆ ตนยังได้เคยเห็นผีเปรต แต่เป็นลักษณะเงาลางๆ ตัวสูงกว่าต้นไม้ มีเสียงร้องคล้ายคนเป่านกหวีด ซึ่งตนมั่นใจว่าไม่ใช่เงาต้นไม้อย่างแน่นอน.