เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ โรงสีข้าว สหกรณ์การเกษตรเมืองอุตรดิตถ์ จำกัด แหล่งรับซื้อข้าวเปลือกและผลิตข้าวสารบรรจุถุง “ดีอุดม” เพื่อจำหน่าย นายประพันธ์ มายรรยง ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเมืองอุตรดิตถ์ จำกัด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตและการตลาด ลงพื้นที่สำรวจสต็อกข้าวเปลือกและข้าวสารบรรจุถุงของสหกรณ์การเกษตรเมืองอุตรดิตถ์ จำกัด เพื่อเร่งแก้ไขปัญหา เนื่องจากจำนวนข้าวเปลือกปัจจุบันมีเพียงซื้อมาขายไป ไม่สามารถสต๊อกไว้ได้ หลังพ่อค้าโรงสีขนาดใหญ่ กว้านรับซื้อในราคาที่สูง ผลจากราคาข้าวสารในท้องตลาดปรับตัวสูงขึ้น หลังประเทศอินเดียระงับการส่งออกข้าว ส่งผลให้ราคาข้าวทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น และตอนนี้ราคาข้าวสารถุงของไทย ก็กำลังดีดตัวขึ้นเช่นกัน กลายเป็นวิกฤติราคาข้าวแพง

ทั้งนี้ พบว่าโรงสีข้าวของสหกรณ์การเกษตรเมืองอุตรดิตถ์ จำกัด หยุดการเดินเครื่องเป็นการชั่วคราว โดยจะเริ่มสีข้าวเพียงเฉพาะช่วงที่มีข้าวเปลือก และสีพร้อมบรรจุถุงให้เฉพาะลูกค้าประจำ 200 กว่าร้านค้าเท่านั้น ไม่สามารถจัดขายให้ลูกค้าขาจรได้ เนื่องจากไม่มีข้าวเปลือกมากพอ

นายประพันธ์ กล่าวว่า เป็นช่วงที่โรงสีขาดแคลนข้าวเปลือก เนื่องจากสมาชิกเกษตรกรชาวนา จ.อุตรดิตถ์ ในช่วงเวลานี้ มีเพียง อ.พิชัย ที่เก็บเกี่ยว แต่ก็มีผู้ประกอบการโรงสีขนาดใหญ่จากต่างจังหวัด มากว้านรับซื้อถึงที่ในราคาสูงถึงตันละกว่า 12,000 บาท ถือเป็นนาทีทองของชาวนา สหกรณ์ฯ ได้ส่งทีมตระเวนไปตามต่างอำเภอและต่างจังหวัด ขอซื้อข้าวเปลือกตามยุ้งฉางที่เกษตรกรเก็บไว้ นำมาแปรรูปแล้วบรรจุถุงขายทันทีไม่มีสต๊อก พร้อมแจ้งร้านค้าที่รับซื้อ ขอปรับราคาข้าวสารบรรจุถุงขึ้นอีกกิโลกรัมละ 1 บาท เพื่อให้อยู่ได้ ซึ่งสถานการณ์แบบนี้ น่าจะไปจนถึงฤดูการเก็บเกี่ยวข้าวนาปี คือ ประมาณปลายปี 66 หรือต้นปี 67

“แต่ก็ไม่มั่นใจด้านผลผลิต เนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้ง สภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตข้าวที่น่าจะลดลง จนถึงขณะนี้ พื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ พบว่าปริมาณฝนตกน้อยมาก ไม่เพียงพอต่อการทำนาปี โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน ส่วนในเขตฯ พยายามให้เกษตรกรเข้าสู่ระบบนาแปลงใหญ่ จะได้ลดต้นทุน จัดส่งเจ้าหน้าที่ร่วมวางแผนการเพาะปลูกให้ได้ข้าวคุณภาพ จะได้ขายเต็มเม็ดเต็มหน่วย หลังพบว่านาปรังที่ผ่านมา ผลผลิตลดลงจากไร่ละ 1,200 กิโลกรัม เหลือเพียง 600-800 กิโลกรัม จะทำให้ชาวนาเสียโอกาส เพราะเชื่อว่าราคาข้าวปีนี้จะสูงต่อเนื่อง” นายประพันธ์ กล่าว