เมื่อวันที่ 28 ส.ค. นายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้ลงนามคำสั่งสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง โอนข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่ง ประเภทผู้บริหารระดับต้น จำนวน 4 ราย คือ นายคมกฤช จันทร์ขจร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) เป็น รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (กช.) นายวุฒิพล ทับธานี รองอธิบดี สกร. เป็นรองศึกษาธิการภาค สำนักงานศึกษาธิการภาค 14 นายปรเมศวร์ ศิริรัตน์ รอง ศธภ.14 เป็น รองอธิบดี สกร. และว่าที่ร้อยตรีชูชัพ อรุณเหลือง รองเลขาธิการกช.เป็น รองอธิบดีสกร. สำหรับการโยกย้ายดังกล่าวสืบเนื่องจากมาจากที่ตนตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีการจัดซื้อแบบเรียนของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) และการเรียกรับผลประโยชน์จากการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหาร กศน. ระดับจังหวัดเดิม ก่อนเปลี่ยนฐานะเป็น สกร. ที่มี น.ส.เจริญวรรณ หนูนาค ผู้ตรวจราชการ ศธ. เป็นประธานคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง ซึ่ง น.ส.เจริญวรรณ ได้สรุปผลสืบสวนมาแล้วมีทั้งหมด 5 ประเด็นสำคัญที่มีมูลความผิด โดยใน 5 ประเด็นดังกล่าว พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงงบประมาณในการจัดซื้อแบบเรียนของ สกร. จริง

ปลัด ศธ. กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้จากการสืบข้อเท็จจริงดังกล่าว ยังมีบางประเด็นที่ต้องสอบสวนหาข้อมูลเชิงลึก รวมถึงมีประเด็นการร้องเรียนใหม่เข้ามาเพิ่มเติม คือ โครงการสานพลังการเรียนรู้สู่ภูมิภาคให้กับ 5 จังหวัด ซึ่งเป็นการใช้งบจังหวัดละ 4 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 20 ล้าน การจัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรฯ ที่มีการเบิกจ่ายแบบไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น เนื่องจากตนได้รับรายงานข้อมูลว่า ผู้ถูกสอบสวนยังดำรงตำแหน่งอยู่หน่วยงานเดิม ทำให้กรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกหรือการสอบปากคำพยานในหน่วยงานได้ ดังนั้นเพื่อให้การสอบสวนในเรื่องนี้มีความเป็นธรรม จึงต้องมีคำสั่งย้ายผู้เกี่ยวข้องออกจากตำแหน่งเดิมไว้ก่อน แต่หากผลการสอบสวนสรุปออกมาว่าไม่เกี่ยวข้องอย่างไร ก็สามารถกลับคืนตำแหน่งให้ได้เหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่สังคมจับตา และ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ก็ทวงถามการสอบสวนมาหลายรอบแล้ว เพราะ สกร. ถือเป็นหน่วยงานที่สร้างโอกาสให้แก่ผู้เรียนทุกช่วงวัย จึงไม่ควรมีความเสียหายเกิดขึ้น