จากกรณีเหตุสะเทือนขวัญเมื่อ นายสาณิช (สงวนนามสกุล) วัย 41 ปี ใช้มีดเชือดคอภรรยาสาวคือ น.ส.วิภาพร (นามสมมุติ) อายุ 44 ปี และลูกชายคือ ด.ช.เอ และ ด.ช.บี (นามสมมุติ) เสียชีวิตรวม 3 ศพ ในบ้านพักพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ก่อนพยายามฆ่าตัวตายตามแต่ไม่สำเร็จ โดยสาเหตุจากความเครียดเรื่องหนี้สิน หลังจากตัวเองไปค้ำประกันให้คนรู้จัก แล้วอีกฝ่ายหลบหนี ทำให้ต้องชดใช้เงินแทน ขณะที่ฝ่าย น.ส.วิภาพร ก็เพิ่งจะโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเอาเงินไปถึง 1.7 ล้านบาท ทำให้ต้องไปกู้ยืมเงินนอกระบบบ ถูกเจ้าหนี้ส่งเงินมาตามทวงเงินทั้งวันทั้งคืน จนสุดท้ายเครียดหนักทนไมไหว ลงมือก่อเหตุดังกล่าว

หลังเกิดเหตุมีหน่วยงานเปิดขอรับบริจาคเพื่อหาเงินทำศพให้แก่ผู้เสียชีวิต ซึ่งขณะนี้มียอดเงินทะลุไปกว่า 2 ล้านบาท ปรากฏว่า ญาติของฝ่าย นายสาณิช และ น.ส.วิภาพร ต่างก็แย่งกันนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศล ล่าสุดช่วงคืนวันที่ 28 ส.ค. ที่ผ่านมา ญาติของนายสาณิช ได้รับศพของผู้เสียชีวิตทั้งหมดกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.กำแพงเพชร แต่กลับปรากฏว่า ญาติทางฝ่าย น.ส.วิภาพร กลับไม่ยอม พร้อมเข้าแจ้งความ เพราะต้องการเอาศพผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศล วัดหนามแดง จ.สมุทรปราการ เนื่องจากญาติและเพื่อนฝูงต่างอาศัยอยู่ที่นี่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ส่อแวววุ่นหนัก! 2 ครอบครัวเปิดศึกแย่งศพ 3 แม่ลูก ด้านรร.ปิดรับบริจาคหลังยอดพุ่ง 2 ล้าน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบประเด็นของญาติฝ่าย นายสาณิช นำศพกลับไปยัง จ.กำแพงเพชร นั้น พบว่าเป็นความยินยอมของน้องสาวในสายเลือดของ น.ส.วิภาพร ที่ให้ความยินยอมญาติทางฝ่ายผู้ก่อเหตุ ซึ่งหลังจากนี้คงต้องมาดูต่อว่า สุดท้ายจะลงเอยยังไงเรื่องการจัดการศพ แต่ในขณะนี้ได้ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดในเขตอำเภอคลองขลุง จ.กำแพงเพชร ไปก่อน

ในส่วนของโรงเรียนของลูกคนเล็กที่เสียชีวิต ซึ่งมีการเปิดรับบริจาคเงินนั้น ขณะนี้ได้ปิดรับบริจาคไปแล้ว มียอดเงินเข้าบัญชีสูงกว่า 2,300,000 บาท ซึ่งจะต้องมีการชี้แจงเรื่องเงินโดยละเอียดต่อไป ทั้งนี้ เงินดังกล่าวจะไม่มอบให้ญาติทั้งสองฝ่ายเพื่อตัดปัญหา และอาจจะนำไปทำบุญกับโรงพยาบาล หรือสถานที่อื่น ๆ ตามวัตถุประสงค์ที่สมควร โดยจะมีการแถลงจากทางโรงเรียนอีกครั้ง