เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากคุณยายเลียง โสมทองหลาง อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ที่ 20 บ้านป่ายาว ต.จารพัต อ.ศีขรภูมิ (สี-ขอ-ระ-พูม) จ.สุรินทร์ ว่า ได้มีจดหมายจากสำนักงานบริษัทกฎหมายแห่งหนึ่ง ใน อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2566 เรื่องขอให้ชำระหนี้และไถ่ถอนทรัพย์จำนอง โดยระบุผู้กู้ ชื่อนายโยทะกา ผู้กู้ นางเลียง ผู้จำนองทรัพย์ เป็นประกัน นางวิภาวดี ผู้ค้ำประกัน และนางกนกวรรณ ผู้ค้ำประกัน

โดยระบุว่า ผู้กู้ได้กู้เงินจากสหกรณ์การเกษตรศีขรภูมิจำกัด (สกต.) จำกัด นับตั้งแต่ผู้กู้ได้รับเงินกู้ที่กู้ไปจนถึงปัจจุบัน ท่านผู้กู้ผิดนัด มีภาระหนี้ค้างชำระต่อสหกรณ์ฯ ดังนี้ เงินต้น 564,000.00 บาท ดอกเบี้ย 368,701.04 บาท เบี้ยปรับ 50,463.15 บาท รวมทั้งสิ้น 983,164.19 บาท ทำให้คุณยายตกใจ และได้ปรึกษาหารือกับลูกสาว จึงได้ไปแจ้งศูนย์ดำรงธรรม พร้อมกับแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ดำเนินการตรวจสอบ

น.ส.สุวรรณี โสมทองหลาง อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นลูกสาว บอกว่า หลังจากที่ตนเองได้รับจดหมายและมาสอบถามแม่ดู ก็ตกใจ เพราะเคยเป็นสมาชิกสหกรณ์ และเคยกู้เงินจำนวน 2 แสนกว่าบาท และใช้จ่ายไปหมดหลายปีแล้ว และไม่ได้ทำการกู้อีกเลย และอยู่ดีๆ ก็มีหนังสือแจ้งหนี้มา ทำให้ตนเองและแม่ถึงกับตกใจ จึงได้ตัดสินใจไปขอพบผู้จัดการสหกรณ์การเกษตร (สกต.) จำกัด สาขาศีขรภูมิ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้บอกว่า หนังสือแจ้งหนี้ดังกล่าวเป็นหนังสือปลอมขึ้นมา อย่าไปตกใจ แต่ตนเองไม่ปักใจเชื่อ จึงได้ไปพบเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม แต่ทางเจ้าหน้าที่ให้ไปนำเอกสารการกู้เงินและหลักฐานต่างๆ นำมาให้ ซึ่งตนเองไม่สบายใจ จึงตัดสินใจไปปรึกษาพี่น้องภายในหมู่บ้าน บอกว่าให้แจ้งนักข่าวในพื้นที่เข้าไปตรวจสอบด้วย

หลังจากที่ผู้สื่อข่าวเข้าไปตรวจสอบ ก็พบคุณยายวัย 70 ปี กำลังทอผ้าอยู่ภายในบ้าน และพบลูกหลานอยู่ด้วยกันเพียงไม่กี่คน และขอดูเอกสารการแจ้งให้ชำระหนี้ ซึ่ง น.ส.สุวรรณี ลูกสาว ยื่นมาให้ดูและก็ยังบอกอีกว่า ทางเจ้าหน้าที่สหกรณ์การเกษตรบอกว่าไม่ให้ไปแจ้งความ เพราะไปแจ้งก็ไม่มีประโยชน์อะไร ซึ่งตนเองและแม่ไม่สบายใจ จึงได้ปรึกษาผู้ใหญ่บ้านและญาติพี่น้อง โดยการให้แจ้งนักข่าวในพื้นที่เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่สหกรณ์บอกว่าไม่ต้องแจ้ง เพราะเอกสารที่นัดชำระหนี้นั้นเป็นของปลอม ซึ่งตนเองบอกว่ามันไม่น่าจะใช่ และได้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศีขรภูมิ และจะเข้าพบศูนย์ดำรงธรรมแล้ว

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่สหกรณ์การเกษตรศีขรภูมิจำกัด (สกต.) รายหนึ่ง ไม่ขอเปิดเผยชื่อ โดยให้เหตุผลว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว ได้มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง ได้นำเอกสารของลูกค้าทำการปลอมแปลง ทำการกู้และเบิกเงิน และนำผู้ค้ำต่างๆ มาให้ค้ำให้ โดยนำเอกสารที่ดินนำไปปลอมแปลงตัวเลข และเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้ลาออกไปนานแล้ว และสมาชิกคนที่ร้องก็ไม่ได้เป็นสมาชิกแล้ว เพราะทุกอย่างถือว่าไม่มีอะไร ที่สมาชิกไม่สบายใจ เพราะเกรงว่าเขาจะมายึดที่ดินที่นำไปค้ำเอาไว้ แต่สำหรับตนเองแล้วคงไม่คิดว่าจะมีอะไร ซึ่งชาวบ้านอาจจะตกใจไปเอง