สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ยืนยันจะไม่นำกฏการทดเวลาแบบใหม่มาใช้ในการแข่งขันของ ยูฟ่า อย่างแน่นอน เนื่องจากกังวลว่า อาจจะเป็นอันตรายต่อสวัสดิภาพของนักเตะ

คณะกรรมการสมาคมฟุตบอลระหว่างประเทศ (ไอเอฟบีเอฟ) และ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) สนับสนุนให้นำกฏการทดเวลาแบบใหม่ ซึ่งกำหนดให้ผู้ตัดสินทดเวลาทั้งในจังหวะที่มีการฉลองประตู, เปลี่ยนตัว และเช็ก VAR โดยเชื่อว่า จะสามารถลดปัญหานักเตะเจตนาถ่วงเวลาได้นั้น มาใช้ตั้งแต่ในฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ จนทำให้การแข่งขันบางนัดกินเวลาเกินกว่า 100 นาที

ขณะที่ในฤดูกาล 2023/24 บรรดาลีกชั้นนำของโลก โดยเฉพาะ พรีเมียร์ลีก ได้นำกฏนี้มาปรับใช้เช่นกันจนทำให้การทดเวลาบาดเจ็บระดับเกินกว่า 10 นาทีกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ยูฟ่า ไม่ได้เห็นดีด้วย โดย ซโวนิเมียร์ โบบัน อดีตมิดฟิลด์คนดังของ เอซี มิลาน และประธานฝ่ายฟุตบอลขององค์กรลูกหนังยุโรปคนปัจจุบัน ยืนยันว่า แฟนบอลจะไม่ได้เห็นการทดเวลาแบบมหาโหดในการแข่งขันของ ยูฟ่า แน่นอน

โบบัน กล่าวว่า “มันไร้สาระมาก เมื่อพิจารณาถึงสวัสดิภาพของนักเตะ มันเป็นโศกนาฏกรรมเล็ก ๆ หรือ โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ เพราะพวกเรากำลังทดเวลากันถึง 12, 13 หรือ 14 นาที เราทดเวลากันเกือบครึ่งเวลาหนึ่งของเกม”

“ผมสามารถพูดได้จากประสบการณ์ของตัวเองโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะกองกลาง เมื่อถึงช่วง 30 นาทีสุดท้ายของเกม คุณจะเริ่มเหนื่อยแล้ว จากนั้นก็มีใครบางคนมาต่อเวลาอีก 15 นาที ทำไปเพื่ออะไร?”

“เราบ่นเรื่องตารางการแข่งขัน และเกมที่มีมากเกินไป เราไม่ได้รับฟังนักเตะ และโค้ชเลย พวกเขาพร่ำบ่นกันอยู่ตลอดเวลา แถมตอนนี้เรายังเพิ่มเวลาขึ้นไปอีก 6 หรือ 7 นาทีต่อเกม สำหรับนักเตะบางคนนั่นคือการต้องลงเล่นเพิ่มขึ้นอีก 500 นาทีต่อฤดูกาล นั่นมัน 6 เกมเลยนะ” อดีตดาวเตะทีมชาติโครเอเชีย ทิ้งท้าย.

ภาพ AFP