จากกรณีที่ “นายดวงฤทธิ์ บุนนาค” หรือ ด้วง สถาปนิกและนักออกแบบ สมาชิกกลุ่มแคร์ ได้เคยทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ (เอ็กซ์) ประกาศว่า “ถ้าเพื่อไทยจับมือกับ พปชร. ผมจะยอมให้เอาขี้ปาหัว” ซึ่งสุดท้ายพรรคเพื่อไทยประกาศฉีกเอ็มโอยู แยกทางกับพรรคก้าวไกล จัดตั้งรัฐบาล 11 พรรค สลายขั้วการเมือง ทำให้ทวีตดังกล่าวร้อนแรง ถูกขุดขึ้นมาทวงคำสัญญาไม่หยุด จนเป็นเหตุให้นายดวงฤทธิ์ ตัดสินใจจัดกิจกรรมแสดงความรับผิดชอบต่อคำพูดของตนเอง ภายใต้ชื่อกิจกรรม Letter to Freedom จดหมายสู่อิสรภาพ “Freedom to be, Freedom to act” โดยกิจกรรมจะเปิดให้มีเวลาในการปาขี้ 11 นาที และทีมงานจะเป็นผู้เตรียมอุปกรณ์ไว้ให้ ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 15.14 น. วันที่ 2 ก.ย. ที่ Mirror Art ซอยแจ้งวัฒนะ 1 แยก 6 (มูลนิธิกระจกเงา) กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กิจกรรมเริ่มต้นด้วยการเปิดคลิปวิดีโอผ่านหน้าจอโทรทัศน์ โดยเป็นภาพนายดวงฤทธิ์ กล่าวว่า เหตุผลในการลงมือทำสิ่งนี้ ก็เพียงเพื่อให้ตัวผม ยังเท่ากับคำพูดของผม ผมไม่ได้ทำสิ่งนี้มาจากจุดยืนทางการเมืองหรือความแค้นเคืองใดๆ ผมต้องการแสดงออกเพื่อรักษาไว้ซึ่งอิสรภาพในการเป็นอิสรภาพในการแสดงออกของผม ผมได้พูดในสิ่งที่ผมเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจ ว่ามันจะเกิดขึ้น เพียงเพราะว่าผมอยากให้มันเกิดขึ้น และเมื่อมันไม่ได้เกิดขึ้นในวิธีที่ผมคาดหวัง ผมเองก็ผิดหวังเช่นเดียวกับผู้คนทั้งหลายเช่นกัน ในวิธีที่ผมอิสระในการแสดงออก และการแสดงออกของผม มีผลกระทบกับผู้คน หลายคนที่ตัดสินใจลงมือทำบางอย่างอันมีเหตุมาจากสิ่งที่ผมพูด เชื่อว่ามันจะเป็นจริง เมื่อมันไม่ได้เป็นจริงเช่นนั้น ผมก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ผมได้พูดออกไป ในเงื่อนไขที่ผมสร้าง ด้วยคำพูดที่ผมพูด ผมจึงต้องลงมือทำให้สอดคล้องกับคำพูดนั้น ในวิธีที่ยอมทำให้ตัวผมยังคงอยู่ได้ในฐานะคำพูดของผม เป็นวิธีเดียวที่ยังทำให้ผมมีอิสระในคนที่ผมเป็นอยู่ได้

นายดวงฤทธิ์ เผยอีกว่า ทุกคนที่ได้เข้ามาร่วมช่วยเหลือผมในการแสดงออกของผมในครั้งนี้ ล้วนได้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนในเหตุของการลงมือทำในครั้งนี้ ไม่ได้มีเหตุมาจากการเมืองหรือความไม่พอใจใดๆ ทุกคนมีส่วนร่วมในการแสดงออกนี้ด้วยเหตุเดียวคือต้องการสนับสนุนผม เพื่ออิสรภาพในการ “เป็น” ของผม อิสรภาพในการแสดงออกของผม และต้องการให้ผมยังคงอยู่ในฐานะคำพูดของผม

“ขอบคุณในความเข้าใจและความห่วงใยที่ทุกคนมีให้ และขอบคุณในความเข้าใจของผู้คนที่อยู่รอบตัว ที่สนับสนุนการแสดงออกในครั้งนี้ ด้วยความเข้าใจในความสำคัญของคำพูดที่มีต่อตัวผมและความสำคัญของคำพูดของผมที่ก่อกำเนิดอยู่ในใจของผู้คน” ดวงฤทธิ์ ระบุ

นายดวงฤทธิ์ เผยด้วยว่า การแสดงของผมในครั้งนี้ ไม่ใช่การจำนนต่อสถานการณ์ แต่เป็นการแสดงออกด้วยยินดี ในวิธีที่ผมจะได้ลงมือทำสอดคล้องกับคำพูดของผม และจะทำให้ผมกลับมาเป็นตัวผมที่ครบถ้วนสมบูรณ์อีกครั้ง และยังคงไว้ซึ่งอิสรภาพที่เป็น อิสรภาพที่จะทำ ในคนที่ผมเป็น และนั่นเป็นสิ่งเดียวที่สำคัญ สิ่งเดียวที่ประสงค์ในเจตจำนงเสรีของชีวิต

นอกจากนี้ การกระทำในครั้งนี้ มีนัยสำคัญจากตัวเลขต่างๆ มีความหมาย ดังนี้ เวลาเริ่มกิจกรรม 3.14 หมายถึง การรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลด้วย 314 เสียง ส่วนระยะเวลาในการปา 11 นาที หมายถึง การรวมพรรคร่วมรัฐบาล 11 พรรค และน้ำหนักมูลวัวในถัง 4 กิโลกรัม มาจากที่นายดวงฤทธิ์ได้ประกาศเอาไว้ว่า จะไม่มีวันรวมกัน 4 พรรค

ต่อมาเวลา 15.14 น. กิจกรรมเริ่มต้นด้วยการที่นายดวงฤทธิ์ สวมชุด PPE เต็มตัว และสวมหน้ากากกันแก๊สแบบเต็มใบหน้า เดินเข้ามานั่งคุกเข่ากลางผ้าใบวงกลมสีขาว พร้อมทั้งมีเสียงปรบมือดังขึ้น โดยนายดวงฤทธิ์นั่งลงเพื่อรอให้ประชาชนหยิบเอาถุงพลาสติกซึ่งบรรจุอุจจาระอยู่นั้นนำมาปาใส่ตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรม ซึ่งในพื้นที่โดยรอบมีทีมงานสวมชุดป้องกัน PPE (Personal Protective Equipment) ใส่หน้ากากกันแก๊สเช่นเดียวกัน จากนั้นได้มีผู้ชายสูงอายุรายหนึ่งสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีน และใส่หมวกโพกปิดบังใบหน้า เดินถือโหลพลาสติกปิดฝา พร้อมระบุว่า ตนได้เตรียมอุจจาระมาเอง และฝากบอกไปยังบรรดานายแบก นางแบกพรรคเพื่อไทย ที่ยอมรับการตระบัดสัตย์ของพรรคการเมือง เข้าร่วมกับพรรคนั่งร้านเผด็จการนั้นไม่ถูกต้อง เป็นพรรคการเมืองต้องรักษาคำพูด อย่าหลอกลวงประชาชนเช่นนี้ และการกระทำของนายดวงฤทธิ์วันนี้ ถือเป็นการรักษาคำพูด แต่ตนมองว่าคนเหล่านั้นน่าโดนอุจจาระปากว่านายดวงฤทธิ์อีก อีกทั้งเมื่อเริ่มมีการปาอุจจาระเกิดขึ้นโดยประชาชน 2-3 ราย ปรากฏมีชายสูงอายุสวมเสื้อยืดสีแดงสกรีนข้อความ ‘เพื่อไทย’ เดินเข้าไปสวมกอดนายดวงฤทธิ์ ห้ามการดำเนินกิจกรรม แต่นายดวงฤทธิ์ได้พยักหน้าปฏิเสธ ยืนยันทำต่อ ทำให้ทีมงานได้พาชายรายดังกล่าวออกจากพื้นที่

สำหรับบรรยากาศระหว่างกิจกรรม ก็ได้มีผู้หญิงรายหนึ่ง สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้น สวมแว่นตากันแดด เดินเข้าไปคุกเข่าหน้านายดวงฤทธิ์ และกล่าวสั้นๆ ว่า มาแบกรัฐบาลทำไม มันดีตรงไหน การตระบัดสัตย์ไปร่วมรัฐบาล หลอกลวงประชาชนแบบนี้ คุณควรกล่าวขอโทษประชาชนเสียด้วยซ้ำ ไม่ใช่แค่รักษาคำพูดด้วยการมาให้นั่งปาขี้ รวมถึงยังมีบุคคลสวมชุด PPE จำนวน 2 ราย เดินเข้ามาในพื้นที่กิจกรรม สร้างเสียงฮือฮาเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีหนึ่งรายสวมหน้ากากลักษณะคล้ายใบหน้าของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ใช้มือหยิบถุงอุจจาระและเริ่มปาใส่หน้าและลำตัวของนายดวงฤทธิ์ โดยที่เจ้าตัวไม่มีการลุกขยับหนีหรือยกมือปัดป้องแต่อย่างใด ทั้งยังมีประชาชนนำช่อดอกไม้สีขาวมาวางข้างลำตัวนายดวงฤทธิ์อีกด้วย ต่อมาเมื่อใกล้ครบกำหนดเวลา 11 นาที กลิ่นเหม็นเริ่มกระจายคลุ้งทั่วพื้นที่ และทีมงานได้เดินเข้ามาพร้อมถังบรรจุอุจจาระเปียก เทราดลงศีรษะลงมาลำตัวของนายดวงฤทธิ์ ก่อนจบกิจกรรมด้วยการที่เจ้าตัวลุกยืนขึ้นโค้งคำนับต่อประชาชน และถอดชุด PPE กับหน้ากากกันแก๊สออก เหลือเพียงเสื้อยืดและกางเกงขาสั้น สามส่วนสีดำที่สวมทับไว้ และเดินไปล้างตัวกับทีมงานด้านข้างพื้นที่ ซึ่งเตรียมสายยางฉีดน้ำจากรถบริการส่งน้ำประปา ก่อนสาวเท้าออกจากพื้นที่ โดยปฏิเสธการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน กล่าวเพียงแต่คำขอบคุณเท่านั้น และเดินไปอาบน้ำล้างตัวที่ห้องน้ำ ก่อนขึ้นรถร่วมกตัญญู (หน่วยปฐมพยาบาล) ที่เตรียมไว้ ออกจากพื้นที่ไปตรวจร่างกาย เพื่อป้องกันเรื่องเชื้อโรคต่างๆ ที่เจือปนมาจากอุจจาระเข้าสู่ร่างกายหรือระบบทางเดินหายใจ

นอกจากนี้ ภายในงานพบว่ามีประชาชนเดินทางมาร่วมสังเกตการณ์มากกว่าร่วมปาอุจจาระ ทั้งยังมีกลุ่มประชาชนในนาม “จ้างวานข้า” ซึ่งเป็นสมาชิกของมูลนิธิกระจกเงา นำไม้กวาดทางมะพร้าวมาเพื่อทำความสะอาดภายหลังจบกิจกรรม ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ก่อนเริ่มกิจกรรม ทีมงานได้มีการเตรียมรถบริการส่งน้ำประปาจำนวนหนึ่งคันเข้ามาในพื้นที่ และมีการวางผ้าใบสีขาวขนาดใหญ่ ลักษณะวงกลมไว้กลางลานจัดกิจกรรม ทั้งยังมีนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และนายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย (พท.) เข้าร่วมสังเกตการณ์อีกด้วย.