เมื่อวันที่ 4 ก.ย. น.ส.กาญจน์สุดา ปานะสุทธะ นายก อบจ.สมุทรสงคราม เปิดเผยว่า ประเพณีตักบาตรขนมครก เป็นประเพณีที่เก่าแก่ของ จ.สมุทรสงคราม ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2473 ปัจจุบันมีเพียงแห่งเดียวที่วัดแก่นจันทร์เจริญ ต.บางพรม อ.บางคนที โดยจัดกันในวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี โดยเลียนแบบการจัดงานมาจากขนมเบื้องของพระราชพิธีในวัง ที่สืบทอดกันมาจนถึงปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี โดยญาติโยมที่มาร่วมทำบุญ จะซื้อขนมครกและน้ำตาลทรายจากพ่อค้าแม่ค้าที่พายเรือมาขายหน้าวัดแก่นจันทร์เจริญ ถวายพระสงฆ์ แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ชาวบ้านจึงเกรงว่าประเพณีตักบาตรขนมครกจะสูญหายไปด้วย จึงได้ช่วยกันลงแรงและร่วมกันบริจาคเงินซื้อข้าวสารมาหมักค้างคืนไว้ พอเช้าตรู่ของวันใหม่ก็ไปรวมตัวกันที่วัดแก่นจันทร์เจริญ ช่วยกันโม่แป้ง คั้นกะทิ ทำขนมครก เพื่อนำไปตักบาตรถวายพระสงฆ์ พร้อมกับน้ำตาลทรายถวายคู่กัน เนื่องจากพระบางรูปชอบหวาน จึงมีน้ำตาลทรายให้มาด้วย

นายก อบจ.สมุทรสงคราม กล่าวว่า ตามตำนานบอกเล่าของคนเฒ่าคนแก่เล่าว่า ประเพณีตักบาตรขนมครกนั้น เกิดขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีชายหญิงคู่หนึ่งชอบพอกัน ฝ่ายชายชื่อ “กะทิ” ส่วนฝ่ายหญิงชื่อ “แป้ง” แต่พ่อของแป้งซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านไม่ชอบกะทิ จึงหาทางขัดขวางไม่ให้มายุ่งเกี่ยวกับลูกสาว และยังยกลูกสาวให้แต่งงานกับปลัดอำเภอหนุ่มจากกรุงเทพฯ และเมื่อพ่อของแป้ง รู้ว่ากะทิจะมาขัดขวางงานแต่งงานลูกสาว จึงขุดหลุมพรางไว้เพื่อดักฝังกะทิทั้งเป็น จนกลางคืน กะทิกับแป้งได้นัดพบกันและเกิดพลัดตกลงไปในหลุมพรางของพ่อแป้งทั้งคู่ ลูกน้องของผู้ใหญ่บ้านนึกว่ากะทิตกหลุมพรางคนเดียว จึงนำดินมาฝังกลบทั้งคู่จนตายทั้งเป็น รุ่งเช้าผู้ใหญ่บ้านรู้เข้าจึงเกิดความเศร้าโศกเสียใจ จึงสร้างเจดีย์ไว้เป็นอนุสรณ์แด่คนทั้งสอง ต่อมาชาวบ้านรู้ข่าวจึงเห็นใจในชะตาชีวิตของหนุ่มสาวคู่นี้ จึงนำขนมที่ทำจากกะทิและแป้ง และเรียกว่า “ขนมคู่รักกัน” มาเซ่นไหว้ ต่อมาได้มีผู้เห็นว่าชื่อเรียกยาก จึงตัดเอาตัวอักษรแต่ละคำคือเอาตัว ค ควาย ร เรือ และ ก ไก่ มารวมกันจึงอ่านว่า “ครก” หรือขนมครกนั่นเอง

เพื่ออนุรักษ์ประเพณีตักบาตรขนมครก ที่สืบทอดกันมานานเกือบ 100 ปี อบจ.สมุทรสงคราม จึงร่วมกับ จ.สมุทรสงคราม อบต.บางพรม ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม สำนักงานวัฒนธรรม จ.สมุทรสงคราม และชาวตำบลบางพรม จัดงานตักบาตรขนมครกขึ้น ที่วัดแก่นจันทร์เจริญ ในวันขึ้น 8 ค่ำเดือน 10 ปีนี้ตรงกับวันที่ 22 ก.ย. 66 ซึ่งจะมีเตาขนมครก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเตาถ่านกว่า 20 เตา มีการสาธิตการขูดมะพร้าวจากกระต่ายแบบโบราณ การโม่แป้งด้วยโม่หินแบบโบราณ การหยอดและการแคะขนมครกจากเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดแก่นจันทร์เจริญ เริ่มงานตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป โดยเวลา 09.30 น. มีพิธีเปิดงาน ได้รับเกียรตินายสมนึก พรหมเขียว ผวจ.สมุทรสงคราม เป็นประธาน
จากนั้นเป็นการตักบาตรขนมครก มีพระสงฆ์วัดแก่นจันทร์ทุกรูปมารับบาตร ส่วนขนมครกที่เหลือจากพระฉันแล้ว ทางวัดจะแจกจ่ายให้นักท่องเที่ยวและชาวบ้านนำกลับบ้านฝากญาติพี่น้องรับประทานเพื่อความเป็นสิริมงคล จึงขอเชิญนักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจไปร่วมงานดังกล่าวได้ ที่วัดแก่นจันทร์เจริญ ตามวันและเวลาดังกล่าว