สวัสดีค่าท่านผู้อ่านทุกท่าน วนมาพบกับพวกเรา “ชาวบ้าน 1/4” กันอีกแล้วนะคะ สัปดาห์นี้พวกเราก็จะมาทุกท่านมาพบกับศิลปินชื่อดังที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์มาตลอดอย่าง “เก่ง-ธชย ประทุมวรรณ” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่ไม่ว่าจะพาร์ตไหนของชีวิตเขา ก็ถูกแฟนๆ สนใจอย่างมากมาย ทั้งเรื่องงาน ชีวิตส่วนตัวและความรัก อย่างเรื่องล่าสุดหนุ่มเก่งเพิ่งเซย์กู๊ดบายรักช้ำๆ จากแฟนหนุ่มไปหมาดๆ งานนี้หนุ่มเก่งเองได้มีโอกาสมาเยือน และให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์” พร้อม “ยอมเปิดใจถึงรักครั้งเก่า” บอกเลยว่าเราก็ไม่พลาดที่จะมาพูดถึงเรื่องนี้กัน เพราะยังมีหลายแง่ หลายมุมที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย

ก่อนอื่นเลยต้องพูดถึงประประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจเลยนั้นก็คือ รักครั้งนั้น “เป็นคอนเทนต์หรือเปล่า?” ซึ่งทางตัวเก่งเองก็ตอบตรงๆ เลยว่า “ไม่ใช่คอนเทนต์ครับ เวลาเก่งทำอะไรเราทำจากใจจริงๆ ทุกอย่างมันค่อนข้างเรียลหรือจริงมากๆ ถ้าใครรู้จักเก่งจะรู้ว่าเราอยู่บนบรรทัดฐานของความจริงและความรู้สึก เรารู้สึกเราจึงทำ แต่บทเรียนต่างๆทำให้เรารู้ว่าบางทีความรักของคนในอาชีพอย่างเรามันไม่ใช่ความรักของคนสองคน มันเป็นรักของคนหมู่มาก ก็ดีครับได้เป็นบทเรียนของตนเอง”

นอกจากเก่งเองเองยังตอบสาเหตุ “ความรักที่ต้องถูกยุติสัมพันธ์” ด้วยว่า “อย่างที่เก่งบอกมันไปเร็วกว่าความสัมพันธ์จริง ข่าวไปเร็วกว่าความสัมพันธ์จริง ด้วยอาชีพเขาเป็นอาชีพที่ต้องอาศัยความรักจากคนหมู่มากซัพพอร์ตด้วย ยิ่งเราเป็นพี่ด้วยเนอะ เราก็ไม่อยากเห็นแก่ตัว ดังนั้นไม่อยากไปตัดอาชีพเขา แล้วมันก็ไม่ได้เป็นความสัมพันธ์ที่ลึกเกินไปจนเราตัดไม่ได้ เราไม่ได้เดินกันมาลึกจนแยกกันไม่ได้ อยู่ในเลเวลที่คุยกันได้ อีกอย่างคือเรื่องคอมเมนต์ต่างๆ เก่งรู้สึกว่าพอเขาเป็นคนที่มีคนรักเยอะ บางทีคนรัก เก่งไม่ได้ว่าใครนะครับ เขารักของเขา เขาก็จะไม่ชอบเรา บางทีก็เลยจะมีบางคอมเมนต์ที่มันทำร้ายจิตใจเรา และบางทีมันแรง และเราก็รู้สึกเสียใจ เลยโอเคหยุดไว้ดีกว่า”

ก่อนที่สุดท้ายเก่งจะทิ้งท้ายไว้ว่า “เก่งโดนคำถามยังไงสรุปเป็นไหม เป็นไหมๆ จนมีภาพออกมา คนก็จะแสดงความคิดเห็นกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ถามว่าหลอกไหม เก่งให้แล้วแต่คนมองแล้วกัน สำหรับเก่งก็ยังพูดเหมือนเดิมว่ารักเป็นสิ่งสวยงาม เราเลือกไม่ได้ว่าคนจะวิพากษ์วิจารณ์เราไม่ได้ ดังนั้นยอมให้ทุกคนคิดได้ว่าจะเป็นยังไงก็แล้วกัน เก่งจะไม่กำหนดคำตอบว่าเก่งต้องเป็นแบบไหน แต่ฝากไว้ว่ามันไม่มีใครไม่เคยสวมหัวโขนหรอกครับ

เอาจริงๆ เป็นเรื่องปกติของ “ความรักดารา” ที่หลายๆ คนมักมองว่าเป็น “ความรักสาธารณะ” ซึ่งแน่นอนว่ามักจะถูกจับตาอยู่อย่างเสมอ บางคู่ถึงขั้นถูกขุดคุ้ยถึง “เรื่องราวในอดีต” รวมไปถึงบางคู่ที่ถูก “วิพากษ์วิจารณ์” อย่างหนักถึงความเหมาะสม หนักถึงขั้นเรียกร้องให้เลิกรากันก็มีไม่น้อย เพราะมองว่าคุณเป็น “คนสาธารณะ” ยังไงก็มีสิทธิวิจารณ์อยู่แล้ว แต่ทุกคนอย่าลืมว่าดารา นักแสดง หรือคนมีชื่อเสียงทุกคนนั้น ก็เป็นแค่ “มนุษย์คนหนึ่ง” ย่อมมีรัก โลภ โกรธ หลง เช่นเดียวกันการที่เขานั้นจะรักใครสักคน แม้จะเป็นสาธารณะ แต่สุดท้ายความรักมันก็เป็นเรื่องของ “คนสองคน” ที่เขาจะตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน เอาเป็นว่าอย่างเราๆ ที่เป็น “คนนอก” ส่งแค่กำลังใจก็พอ อย่าไป “ชี้นิ้วตัดสิน” ว่าใครเหมาะ ไม่เหมาะกับใครดีกว่า อย่างคำที่ใครเคยบอกไว้ว่า “รักเกินรักมักทำร้าย”

แต่เรื่องนี้จะโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ไม่ได้ เพราะหากคนสองคนมี “ความมั่นคงในความรู้สึกมากพอ” ปัจจัยรอบข้างเป็นสิ่งที่ไม่ได้มีผลต่อการตัดสินใจใดๆ เลย เพราะสุดท้ายความรักมันก็ขึ้นอยู่กับแค่คนสองคนอยู่ดี ไม่ว่าเป็นเพศไหน รูปแบบใดก็ตาม เพียงแค่เรา “เข้าใจกันและกัน เป็นกำลังใจให้กันและกันมากพอ” ปัญหาต่างๆ ที่เข้ามาก็ไม่อาจจะสะเทือนความสัมพันธ์ได้ สรุปแบบเข้าใจได้ง่ายๆ ก็คือ “เรื่องของเขาเราอย่าไปยุ่ง ยุ่งแค่เรื่องเรา ทำเรื่องของเราให้ดีก็พอ”..

———————————————
คอลัมน์ “คันปากอยากเมาท์”
โดย “เมี้ยนฤดี”