จากกรณีนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก มีการทำธุรกิจในเครือข่ายหลายธุรกิจ ที่เข้าเสนอและรับงานจากหน่วยงานของรัฐหลายกระทรวงในพื้นที่หลายจังหวัด โดยประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ผลิต และจำหน่ายยางแอสฟัลท์ติกคอนกรีต ก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย มีมูลค่าหลายพันล้านบาท ภายใต้ 2 บริษัท คือ ป.พัฒนารุ่งโรจน์ ก่อสร้าง จำกัด และ ป.รวีกนก ก่อสร้าง จำกัด พบว่าตั้งแต่ปี 54-ปัจจุบัน ทั้งสองบริษัทคว้างานประมูลของหน่วยงานภาครัฐไปถึง 1,544 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 7.5 พันล้านบาท และในจำนวนนี้มี 2 โครงการ ที่มีวงเงินสัญญาสูงถึง 30 ล้านบาท ได้แก่ โครงการประกวดราคาจ้างเหมาทำการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 375 สาย อ.ดอนตูม-ต.ลำลูกบัว และโครงการประกวดราคาจ้างก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 375 สาย ต.ลำลูกบัว-บรรจบทางหลวงหมายเลข 346 ที่มีเหตุอันควรสงสงสัยว่ามีการได้เข้าทำสัญญากับภาครัฐโดยไม่โปร่งใส มีลักษณะอันอาจเข้าข่ายตกลงร่วมกันในการเสนอราคา เพื่อมีวัตถุประสงค์เข้าทำสัญญากับรัฐโดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือโดยกีดกันไม่ให้มีการเสนอราคาอันมิใช่เป็นการประกอบธุรกิจปกติ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบโดยละเอียดจากทางดีเอสไอ ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 15 ก.ย. “ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์“ ได้รับรายงานความคืบหน้าจากแหล่งข่าวระดับสูงภายในกระทรวงยุติธรรม ว่า ทราบจากคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบพยานหลักฐาน เอกสารต่างๆ ที่ได้รับมาจากกรมทางหลวง และในส่วนของดีเอสไอเอง จากนั้นจะต้องรอในช่วงวันจันทร์ที่ 18 ก.ย. ถึงวันพุธที่ 20 ก.ย. นี้ ซึ่งจะมีการทยอยเดินทางเข้าให้ปากคำในฐานะพยานของ 58 บริษัท ที่เคยยื่นซื้อซองใน 2 โครงการ ที่ดีเอสไอตรวจพบเบื้องต้นว่าอาจมีพฤติการณ์ส่อทุจริตร่วมกันฮั้วประมูลหรือไม่

เนื่องจากทั้งหมดนี้ ได้มีการยินยอมจ่ายค่าธรรมเนียมซื้อซองประกวดราคา แต่พอในวันประมูลเปิดซอง e-bidding กลับหายไปไม่เข้าร่วมขั้นตอน คาดว่าจะมีการเข้าให้ปากคำลอตละ 20 บริษัทต่อวัน อีกทั้งกองคดีฮั้วประมูล ได้มีการแบ่งทีมพนักงานสอบสวนสำหรับการสอบปากคำเป็น 2 ทีม แบ่งเป็นทีมสอบสวนของ ผอ.ส่วนกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ 2 และทีมสอบสวนของ ผอ.ส่วนกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ 3 แต่จะมี ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน และหากไม่มีบริษัทรายใดแจ้งขอขยายเวลาเลื่อนนัดหมายการเข้าให้ปากคำ ก็จะดำเนินการแล้วเสร็จในสามวันนี้ อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ด้วยว่า ดีเอสไออาจจะพบมากกว่าสองโครงการดังกล่าว ที่มีพฤติการณ์ฮั้วประมูล ซึ่งพนักงานสอบสวนจะต้องตรวจสอบให้ละเอียด

ช็อก! วงจรปิดนาทีหลัง ‘หน่อง ท่าผา’ ลั่นไก พบตำรวจยศใหญ่หนีไปกับสาว

แหล่งข่าวเผยอีกว่า จากเดิมดีเอสไอมีฐานข้อมูลของโครงการที่บริษัทกำนันนกได้ไปประมูลจัดซื้อจัดจ้างจากภาครัฐทั้งสิ้น 20 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการที่มีวงเงินงบประมาณเกินกว่า 30 ล้านบาท ตลอดห้วงปี 54-ปัจจุบัน นอกจากนี้ ตนได้รับรายงานจากคณะพนักงานสอบสวนด้วยว่า อาจจะพบโครงการอื่นๆ ของกำนันนกที่มีวงเงินงบประมาณเกินกว่า 30 ล้านบาท เพิ่มเติมอีกด้วย อีกทั้งในส่วนที่เป็นโครงการที่มีวงเงินงบประมาณเกิน 20 ล้านบาท ก็อาจจะต้องมีการตรวจสอบขยายผลเพิ่มเติมคู่ขนานเช่นเดียวกัน โดยภายในสัปดาห์หน้าดีเอสไอจะรับสองโครงการ ได้แก่ โครงการประกวดราคาจ้างเหมาทำการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 375 สาย อ.ดอนตูม-ต.ลำลูกบัว และโครงการประกวดราคาจ้างก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 375 สาย ต.ลำลูกบัว-บรรจบทางหลวงหมายเลข 346 เป็นคดีพิเศษก่อน แต่ก็จะมีการดำเนินการตรวจสอบคู่ขนานไปกับ 20 โครงการเช่นเดิม

เมื่อถามว่าคณะทำงานของตำรวจสอบสวนกลาง ได้มีการเข้าพบหรือขอข้อมูลกับทางดีเอสไอบ้างหรือไม่ เนื่องจากมีการตรวจสอบในเรื่องโครงการประมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐเหมือนกัน แหล่งข่าวเผยว่า ได้รับรายงานว่าเมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้มีตัวแทนคณะทำงานของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เข้าพบผู้อำนวยการกองคดีฮั้วประมูล ซึ่งทางตำรวจได้มีการประสานขอข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับตัวโครงการต่างๆ ที่ดีเอสไอมีอยู่ ซึ่งก็ได้มีการแลกเปลี่ยนให้ข้อแนะนำว่า จะต้องมีการทำคดีตรวจสอบการฮั้วประมูลอย่างไร พฤติการณ์ความผิด จะมีลักษณะผิดอย่างไรได้บ้าง ถือเป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้วิธีการทำงานระหว่างสององค์กร หากมีข้อมูลชุดใดที่แต่ละหน่วยงานไปลงพื้นที่จัดเก็บข้อมูล และสามารถแบ่งปันกันได้ ก็จะประสานกันในภายภาคหน้าได้ด้วย ทั้งนี้ ตั้งแต่ดีเอสไอมีการตรวจสอบโครงการฮั้วประมูลของกำนันนก ปรากฏว่ามีสายโทรศัพท์ของประชาชนโทรฯ มายังสายด่วน 1202 ของดีเอสไอเป็นจำนวนมาก ซึ่งมาคอยชี้เป้าให้เบาะแสเกี่ยวกับโครงการจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ทั่วประเทศ ที่เห็นว่ามีพฤติการณ์ทุจริต ไม่ใช่แค่เพียงโครงการของกำนันนกอย่างเดียวแล้ว