สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ว่ากระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเผยแพร่รายงาน ว่ารัฐบาลปักกิ่งทุ่มงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี “โดยใช้วิธีการทั้งที่เปิดเผยและไม่เปิดเผย” เพื่อดำเนินแคมเปญ “บิดเบือนข้อมูล” ผ่านการสื่อหุ้นในบริษัทสื่อต่างประเทศ การให้ความสนับสนุนผู้มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ หรืออินฟลูเอนเซอร์ และการเผยแพร่ข่าวสาร หรือเนื้อหา แต่ไม่มีการกำกับอย่างเป็นทางการ ว่าเกี่ยวข้องกับทางการจีน


รายงานของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐระบุต่อไปว่า รัฐบาลปักกิ่งสร้าง “ระบบนิเวศข้อมูล” ด้วยการร่วมคัดสรรกลุ่มชนชั้นสูงทางการเมือง และผู้สื่อข่าวในต่างประเทศ ขณะเดียวกัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจีนยังลงทุนในเครือข่ายดาวเทียม และบริการโทรทัศน์ดิจิทัล ในภูมิภาคกำลังพัฒนา ซึ่งให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่รัฐบาลปักกิ่งสนับสนุน


ทั้งนี้ ผลจาก “การเก็บเกี่ยวข้อมูล” ของจีน ช่วยให้รัฐบาลปักกิ่งสามารถปรับกลไกการเซ็นเซอร์ทั่วโลก ด้วยการสามารถพุ่งเป้าไปที่บุคคล หรือองค์กรแห่งหนึ่งแห่งใดอย่างเจาะจง หากปราศจากการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนและจริงจัง ความพยายามดังกล่าวของจีนอาจส่งผลให้เสรีภาพในการแสดงความเห็นของโลก “หดตัวอย่างรวดเร็ว”


ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศจีน และสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงวอชิงตัน ยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ย้อนกลับไปเมื่อเดือนก.ค. ที่ผ่านมา รัฐบาลปักกิ่งเคยออกแถลงการณ์ ตอบโต้คำแถลงจากที่ประชุมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ( นาโต ) ว่าจีนใช้นโยบายบีบบีงคับ และแพร่กระจายข้อมูลบิดเบือน “ไม่เป็นความจริง และเป็นเจตนาใส่ร้ายป้ายสี รวมถึงทำให้เกิดการเข้าใจผิดต่อจีน”.

เครดิตภาพ : AFP