เมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 3 ต.ค. ที่ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รรท.ผบก.ทล. พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รรท.ผบก.ปปป. ตัวแทนเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ร่วมประชุมหารือแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทวัดบางคลาน

พระครูพิสุทธิวรากร เปิดเผยว่า มาร้องขอความเป็นธรรมกับ บก.ปปป. เนื่องจากที่ผ่านมาไม่สามารถเข้าวัดได้ ซึ่งหลังจากนี้ได้มอบอำนาจให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เข้าไปดูแลวัดเพื่อแก้ปัญหาอย่างจริงจัง หลังจากที่ผ่านมาแม้แต่ ผวจ. นายอำเภอ ตำรวจท้องที่ ก็ยังไม่สามารถเข้าวัดได้ เมื่อจะเข้าไปที่วัดแต่ละครั้ง กลุ่มมวลชนที่ยึดวัดจะรีบมาปิดประตู จนเกิดการปะทะ ยิงหนังสติ๊ก ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ จนไม่สามารถเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้ สร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก

พระครูพิสุทธิวรากร กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมานั้น พอให้หลังไม่นาน วัดก็ถูกกลุ่มมวลชนบุกยึดครองเช่นเดิม ดังนั้นการให้ตำรวจ บก.ปปป. เข้ามาช่วยแก้ปัญหาในครั้งนี้ จึงคาดหวังว่าจะสามารถจัดการได้ เพราะที่ผ่านมาเชื่อว่าเป็นเพราะเจ้าหน้าที่รัฐไม่จริงจัง ทำงานแบบลูบหน้าปะจมูก จึงไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ทั้งที่เป็นความผิดซึ่งหน้าก็ไม่มีการจับกุม

“สำหรับผู้อยู่เบื้องหลัง เชื่อว่า คือ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว. และอีกหลายๆ คน ซึ่งได้ให้ข้อมูลกับทางตำรวจ บก.ปปป. ไปหมดแล้ว ส่วนตัวเคยพูดคุยเจรจากันช่วงแรกที่เข้ามาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส แต่ต่อมามองว่าเจ้าตัวทำอะไรไม่จริงจัง ปล่อยปละละเลย จึงปลดออกจากคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินของวัด” เจ้าอาวาสวัดบางคลาน กล่าว

ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมีมานาน 7-8 ปี ทางหลวงพ่อก็อยากจัดการปัญหาให้จบสิ้น ประกอบกับเห็นว่าทางตำรวจ บก.ปปป. เคยเข้าไปแก้ไขปัญหาที่วัดห้วยด้วน จ.นครสวรรค์ ได้สำเร็จ จึงอยากให้ใช้โมเดลเดียวกัน โดยตั้งตำรวจ บก.ปปป. ตำรวจท้องที่ นายอำเภอ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เข้ามาบริหารจัดการวัด แต่จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ของวัด ซึ่งแนวทางมาตรการจะเริ่มจากเบาไปหาหนัก โดยจะเปิดให้คู่ขัดแย้งมาเจรจาหาข้อสรุป หากไม่สำเร็จก็คงต้องใช้กฎหมายบังคับ

“หลังจากนี้จะให้หลวงพ่อถอยไป แล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้บุกรุก เรื่องนี้ส่วนตัวไม่หนักใจ เพราะหากแก้ไขปัญหาไม่สำเร็จ จะแสดงถึงความอ่อนแอของข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่รัฐ วันนี้เมื่อได้รับสิทธิมาแล้ว จึงจะต้องทำให้เกิดเป็นรูปธรรม แก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง จริงจัง หากมวลชนต่อต้านเจ้าหน้าที่ ก็ต้องว่ากันตามกฎหมายอย่างเข้มงวด แต่ยืนยันว่าการใช้กำลังไม่เกิดประโยชน์และดูไม่ดีต่อพระพุทธศาสนา” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว

ส่วนกรณี สว.กิตติศักดิ์ ที่เข้ามามีบทบาทกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาโดยตลอดนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ถ้าไม่ให้เกียรติกันก็ต้องบังคับใช้กฎหมาย ทุกคนอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ถึงแม้จะเป็น สว. แต่ถ้าขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งมาตรการหนักสุดคือการใช้กำลังคอมมานโด หน่วยปราบจราจล เข้าควบคุมสถานการณ์ แต่สุดท้ายยังยืนยันว่า อยากให้ทุกอย่างจบลงด้วยการเจรจาจะเป็นผลดีที่สุด

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เจ้าอาวาสวัดปัจจุบันได้รับการสนับสนุนจากชาวพิจิตรเป็นอย่างมาก ไม่ใช่ว่ามีแต่คนไม่เห็นด้วย ซึ่งตนมีรายชื่อกลุ่มผู้สนับสนุนเป็นหลักฐานยืนยัน ส่วนเรื่องการจะแจ้งเอาผิดเจ้าหน้าที่บังคับคดีนั้น ทางทนายความเจ้าอาวาสวัดจะเป็นผู้ดำเนินการ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง สุดท้ายอยากให้เรื่องนี้จบลงด้วยการเจรจา เชื่อว่าคนไทยด้วยกันพูดคุยกันรู้เรื่อง