แอนดรูว์ (นามสมมุติ) ชายหนุ่มจากออสเตรเลีย เผยเรื่องราวชวนตะลึงในรายการพอดแคสต์ ‘เดอะ กิฟท์’ ของบีบีซี ถึงอดีตอันลึกลับดำมืดของ จอห์น เดมอน พ่อแท้ ๆ ของเขาซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อปี 2553 ในวัย 69 ปี
เมื่อปีที่แล้ว แอนดรูว์ ลองใช้ชุดตรวจดีเอ็นเอแบบง่ายที่ตรวจได้ด้วยตัวเอง แล้วพบข้อมูลที่สืบเนื่องจากผลการตรวจว่า พ่อของเขาซึ่งมีชื่อจริงว่า วิลเลียม เลสลีย์ อาร์โนลด์ เป็นเด็กกำพร้าจริง ๆ ตามที่เขาเคยบอกคนในครอบครัว แต่สาเหตุที่ทำให้เขาไม่มีพ่อแม่นั้น น่าตกใจมาก เพราะว่า อาร์โนลด์ เป็นคนยิงพ่อแม่ของตัวเองเสียชีวิตตอนที่เขาอายุได้ 16 ปี เท่านั้นยังไม่พอ เขาเป็นคนนำศพพ่อแม่ไปฝังไว้ในสวนหลังบ้านของพ่อแม่อีกด้วย
ต่อมา อาร์โนลด์ ก็โดนจับกุมและได้รับโทษจำคุก เขาได้รับตำแหน่ง “นักโทษตัวอย่าง” อยู่นานถึง 8 ปี จนกระทั่งหลบหนีออกจากเรือนจำได้สำเร็จเมื่อปี 2510 และหลบหนีการจับกุมมาได้โดยตลอดจนกระทั่งเขาเสียชีวิต
หลังจากหนีออกจากคุก อาร์โนลด์ ก็เริ่มต้นชีวิตใหม่ เขาแต่งงานครั้งที่ 2 กับแม่ของ แอนดรูว์ มีลูกด้วยกันและย้ายไปอยู่ที่ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นที่อยู่ปัจจุบันของ แอนดรูว์
คดีของ อาร์โนลด์ ก่อไว้กลายเป็นคดีเก่าเก็บที่ปิดไม่ลง จนกระทั่ง แอนดรูว์ ซึ่งได้ดูรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับการตรวจดีเอ็นเอเพื่อตามหาคนที่มีสายเลือดเดียวกันแล้วนึกสนุก ใช้ชุดตรวจดีเอ็นเอด้วยตัวเอง จากนั้นก็ส่งผลลัพธ์ไปเทียบกับฐานข้อมูล เพื่อตามหาญาติฝั่งพ่อซึ่งเขาเคยรู้มาว่าเป็นเด็กกำพร้า
ผลของการตรวจดีเอ็นเอระบุว่า เขาเป็นลูกชายของนักโทษหนีคุกจากสหรัฐ ซึ่งตำรวจยังคงตามหาตัวมามากกว่า 50 ปี
แอนดรูว์ กล่าวในรายการให้สัมภาษณ์ว่า เขาไม่คิดโกรธผู้เป็นพ่อเมื่อได้รู้ความจริง มันเป็นสถานการณ์ที่แปลกมาก เพราะคดีฆาตกรรมที่พ่อเขาก่อไว้เป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก เขาทำให้คนตายไป 2 คน และคนอื่นๆ อีกหลายคนต้องทุกข์ใจ แต่พ่อที่เขารู้จัก ไม่เหมือนกับนักโทษหนีคดีคนนั้น และที่เขามีชีวิตที่ดีอย่างในตอนนี้ก็เพราะพ่อของเขาเป็นคนเลี้ยงดูและทำสิ่งต่าง ๆ ไว้ให้
แอนดรูว์ ยังกล่าวว่า พ่อของเขาไม่มีท่าทีของคนที่ชอบใช้ความรุนแรงเลยแม้แต่น้อย เขาเป็นคนที่ฉลาดมากและชอบให้กำลังใจคนอื่น ๆ เขาคิดว่าคนเราเปลี่ยนแปลงกันได้ เมื่อเวลาผ่านไป ในอดีตอาจจะมีเหตุการณ์หรือปัจจัยแย่ ๆ หลายอย่างส่งผลกระทบจนทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น
ด้าน จอฟฟ์ บริตทัน อดีตเจ้าหน้าที่สืบสวนจากแผนกทัณฑสถานเนแบรสกา ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบคดีของ อาร์โนลด์ ระหว่างปี 2547-2556 ก็แสดงความเห็นในรายการสัมภาษณ์เดียวกันกับ แอนดรูว์ว่า เขาคิดว่า อาร์โนลด์ คงจะ “กลับตัวกลับใจได้แล้ว”
ที่มา : insider.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES