“แฝดใหญ่” พล.ต.ต.สุรพงษ์ อาริยะมงคล เลขาธิการสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า กรณีที่ พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมนั้น ตนเพิ่งทราบช่วงบ่ายวันที่ 4 ต.ค. ทีมงานส่งไลน์มาให้ดู เข้าใจในตัว พล.ต.อ.สันต์ดี เป็นสุภาพบุรษ เสียสละ และอยู่กับกรีฑามานานกว่า 30 ปี ตั้งแต่ก่อนเป็นนายกฯ ส่วนที่ พล.ต.อ.สันต์ ระบุว่า มีความผิดพลาดในการวางแผนนั้น แฝดใหญ่ ระบุว่า เป็นเหตุปัจจุบันทันด่วน แก้ไขหน้างาน อย่างในรายการวิ่ง 200 เมตรที่นักกีฬาไทยวิ่งไม่จบการแข่งขันนั้น ทางทีมก็ไม่ได้มีรายงานให้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น

พล.ต.ต.สุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า หลังกลับจากเอเชียนเกมส์จะไปพบ พล.ต.อ.สันต์ ที่บ้านซึ่งเป็นปกติอยู่แล้วที่จะเข้าไปรายงานความคืบหน้าเรื่องต่างๆ ให้ทราบ

“ท่าน 100 เปอร์เซ็นต์กับกรีฑา วันที่นักกีฬาจะออกจากบล็อก 200 (วิ่ง 200 เมตรชาย ซึ่ง พล.ต.อ.สันต์ บอกว่า ดูเป็นรายการสุดท้าย) ผมนั่งอยู่กับท่าน ผมยกกล้องจะถ่าย ก็ตกใจทั้งท่านและผม ท่านอาจจะเอ๊ะ ไม่มีใครรายงานให้ท่านทราบว่าเกิดอะไรขึ้น” แฝดใหญ่ กล่าว พร้อมตอบคำถามถึงเรื่องการหานายกคนใหม่ว่า ตอนนี้ยังพูดไม่ได้ ต้องให้เกียรติ พล.ต.อ.สันต์ ให้ถึงเวลาก่อน

พล.ต.ต.สุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับทีมสปรินท์ครั้งนี้ ถือเป็นทีมที่สมบูรณ์ที่สุด แต่เทพีแห่งโชคไม่เข้าข้าง ไม่เช่นนั้นเชื่อว่าติดเหรียญแน่นอน ส่วนการที่ตนมาเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ มากับ สหพันธ์กรีฑา หลังจากเจอกับ พล.ต.อ.สันต์ ในวันแข่ง 200 เมตร ก็ไม่ได้เจอกันอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในแถลงการลาออกจากตำแหน่งของ พล.ต.อ.สันต์ นั้น ข้อความตอนหนึ่งระบุว่า เมื่อเกิดความผิดพลาดในการวางแผนของผู้จัดการทีม ตนก็ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบของนายกสมาคมฯไปได้ พร้อมระบุว่า ได้เดินออกจากสนามหางโจวโอลิมปิก สปอร์ต เซ็นเตอร์ หลังจากมีการ DNF ของนักกีฬา เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งนั่นก็คือ 200 เมตรชาย รองรองชนะเลิศ ของ “บิว” ภูริพล บุญสอน.