เมื่อวันที่ 12 ต.ค. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงการเยียวยาแรงงานไทยในอิสราเอล ว่า กระทรวงแรงงานได้ให้การดูแลผู้ที่มาถึง 15,000 บาท สำหรับผู้ที่เสียชีวิตดูแล 40,000 บาท และค่าทำศพ 40,000 บาท ในส่วนที่ทางการอิสราเอล จะดูแลสำหรับผู้บาดเจ็บ 10-19% จะได้รับการเยียวยาจากรัฐบาลอิสราเอล 1,440,000 บาทโดยประมาณ สำหรับผู้ที่บาดเจ็บเกินกว่า 20% ก็จะต้องดูเป็นรายกรณี ซึ่งจะดูแลเป็นรายเดือนจนกว่าจะเสียชีวิต แต่จะได้รับเดือนละเท่าไหร่ทางกระทรวงรายงานเราจะเป็นผู้เจรจาให้ สำหรับผู้ที่เสียชีวิต ภรรยาจะได้รับ 35,000 บาทต่อเดือน จนกระทั่งมีสามีใหม่ หรือมีการสมรสใหม่แล้ว ในกรณีของบุตรธิดาก็จะดูแลเยียวยาต่อคนต่อเดือน ประมาณเดือนละ 12,000 บาท จนกระทั่งอายุครบ 18 ปี จึงหยุดการดูแล หากเป็นบุคคลที่ไม่มีบุตรและไม่ได้แต่งงาน สิทธิตรงนี้จะถูกนำไปให้พ่อแม่ ซึ่งดูแลพ่อแม่ของผู้เสียชีวิตไปจนกระทั่งพ่อแม่เสียชีวิต

นายพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า ในข้อกังวลต่างๆ ทางกระทรวงแรงงานได้ประสานกับทางรัฐมนตรีแรงงานอิสราเอล ถึงกรณีที่หากกลับประเทศไทยแล้ว จะมีโอกาสกลับไปทำงานในอิสราเอลได้หรือไม่ ถ้าคนที่กลับมาก่อนหมดสัญญา 5 ปี เราจะพยายามประสานกับทางนายจ้างผ่านทางเอเจนซี่ และเราได้ดูแลค่าใช้จ่ายที่จะไปทำงานต่อให้แล้วในครั้งแรก จึงคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องให้ แต่ในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเดินทางไป เราจะมีการหารือว่าเราจะหาเงินกองทุนจากตรงไหน แต่ถ้าสุดท้ายเราไม่สามารถที่จะดำเนินการได้ทั้งหมด ก็คงจะต้องหันหน้าไปพึ่งนายกรัฐมนตรี ในการขอให้รัฐบาลช่วยเยียวยา.