มาถึงศิลปินหนุ่มหล่อดีกรีพระเอกสุดอบอุ่น MEW SUPPASIT ที่ล่าสุดขอถ่ายทอดความดราม่าผ่านเสียงร้องที่ฟังแล้วเจ็บลึก กับอีกหนึ่งอารมณ์เศร้าที่แตกต่างออกไปในเพลง รักได้รักไปแล้ว จากเวอร์ชันเดิมของ Four-Mod ส่งเป็นซิงเกิลที่ 7 ผ่านโปรเจกต์พิเศษ RS Music Switching Voice ภายใต้คอนเซปต์ผู้หญิงร้องเพลงผู้ชาย ผู้ชายร้องเพลงผู้หญิง ซึ่งในมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ มิวได้เล่าเรื่องราวสุดเศร้าที่เกิดขึ้นภายในห้องนอน เมื่อความสัมพันธ์กับคนรักต้องจบลง เหลือทิ้งไว้แค่เพียงความทรงจำสุดเจ็บปวดให้คิดถึง เพราะยังมูฟออนไม่ได้ ซึ่งในการถ่ายทำเอ็มวีแบบ Long Take นั้น มิวก็ได้ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกเศร้าออกมาได้อย่างน่าทึ่ง สมกับที่เป็นนักแสดงมากฝีมืออีกคนในวงการ ทั้งอารมณ์ สีหน้า แววตา ท่าทาง และซีนดราม่าที่สามารถสั่งน้ำตาออกมาได้ตามที่ผู้กำกับต้องการในชั่วพริบตา และยังนำ Symbolic อย่าง สร้อยคอจี้รูปกุญแจซอล และสมุดโน้ต จากเอ็มวีต้นฉบับมาใส่ไว้ให้นึกถึงกันด้วย

“มิวรู้สึกว่าเพลงนี้มีความเข้ากับตัวเองครับ ที่สำคัญมิวเคยเป็นแฟนคลับของโฟร์-มดมาก่อน จำได้ว่าได้ยินเพลงนี้ครั้งแรกช่วงที่เรียนอยู่มัธยม หรือย้อนกลับไปประมาณ 10 ปีที่แล้วเลย ตอนนั้นเพลงนี้ดังมาก ซึ่งพอเอามาเล่าเรื่องใหม่ในเวอร์ชันของมิว จะตีความว่าเรากำลังรู้สึกเหมือนโดนแฟนเก่าบอกให้ตัดใจไปหาคนอื่น แต่ความรู้สึกของเรานั้นคือยังรักเค้าอยู่ และถ้าไปรักคนอื่นได้ก็คงรักไปแล้ว พูดถึงความยากในการร้องเพลงนี้คือดนตรี ที่มีการดีไซน์ใหม่ให้ออกมาเป็นแนวอาร์แอนด์บี พยายามฝึกร้องอยู่หลายอาทิตย์ และต้องใช้อินเนอร์ในการร้องเยอะมากเพราะเป็นเพลงเศร้า ซึ่งส่วนตัวก็เคยมีประสบการณ์เรื่องความรักที่ตรงกับเนื้อหา ตอนอัดเพลงก็มีคิดไปถึงเรื่องราวความรักครั้งนั้นเพื่อบิ้วอารมณ์ให้ร้องออกมาได้อินมากยิ่งขึ้นด้วยครับ”     

สำหรับศิลปินสาว GRACE KANKLAO ก็มาบอกรักแบบสวย ๆ ผ่านเสียงเพลง อยากให้รู้ว่ารักเธอ ในเวอร์ชันที่ตีความหมายแตกต่างไปจากต้นฉบับเดิมของ Joni Anwar พร้อมบอกเล่าผ่านมิวสิกวิดีโอกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน Theatre Shows ของโรงแรม ซึ่งเกรซปรากฏตัวด้วยลุคเดรสหนังสีดำ ขับผิวขาวออร่าฉ่ำ พร้อมหมวกประดับเพชร ที่คอมพลีทลุคออกมาได้อย่างนางพญาสุด ๆ กับท่ายืนร้องเพลงกลางเวที ที่เผยความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังอยากบอกรักผู้ชายที่แอบชอบให้ได้รู้ ซึ่งการถ่ายทำเอ็มวีแบบ Long Take เกรซก็ได้ถ่ายทอดอารมณ์ความโรแมนติกของผู้หญิงออกมาได้แบบสมกับเป็นตัวแม่ สวยเป๊ะทุกอย่าง ทั้งสีหน้า แววตา และท่าทาง

“เป็นเพลงที่ชอบฟังมาก และถือเป็นเพลงของอาร์เอสเพลงเดียว ที่ตั้งใจเลือกอยากจะร้องมากที่สุดในโปรเจกต์นี้ ไม่มีช้อยส์อื่นเลยค่ะ ความทรงจำสำหรับเกรซคือ คิดว่าเป็นเพลงดังที่ไม่เคยหายไปจากวงการเพลงไทยเลย ได้ยินมาทุกยุค ซึ่งในเวอร์ชันออริจินอลก็จะเป็นแนวผู้ชายอบอุ่น พอถูกนำมาทำใหม่ในเวอร์ชันเกรซ ก็จะตีความเล่าเรื่องประมาณว่าผู้หญิงคิดบวก ที่รักผู้ชายคนหนึ่งแบบไม่ต้องการอะไร แต่ก็ขอแอบมีหวังบ้างเล็ก ๆ ส่วนตัวก็เคยมีประสบการณ์ที่ตรงกับเนื้อเพลงมาเหมือนกันค่ะ และยังมีความพิเศษตรงที่ได้มีการดีไซน์เพิ่มท่อนพูดที่ตัดมาจากเนื้อเพลงภาษาอังกฤษของเดิมเข้าไป ซึ่งในวันอัดเสียง “ไฮไซนิค” แฟนเกรซ ก็มาช่วยครีเอทคำภาษาอังกฤษให้ด้วย เพราะจริง ๆ เค้าก็ชอบฟังเพลงนี้มากเหมือนกันค่ะ ส่วนโจทย์ความยาก ก็คือความรู้สึกที่ค่อนข้างกดดันในตัวเพลง ด้วยความที่อยากร้องออกมาให้เพลงมีเสน่ห์แบบเดิม แต่ก็อยากใส่ความเป็นตัวเองลงไปในเพลง และก็ยังอยากหาอะไรแปลกใหม่เพิ่มเข้าไปในเพลงด้วยค่ะ”

แฟนๆสามารถติดตามข่าวสารรอบโลกได้แล้ววันนี้ที่ www.dailynews.co.th และทุกแพลตฟอร์มของ Dailynews