“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย อันดับ 112 ของโลก ลงสนามไปเยือน เอสโตเนีย ทีมอันดับ 115 ของโลก ในเกมอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ ที่อา เลอค็อก อารีน่า วันที่ 17 ต.ค.66 โดยทีมชาติไทย นัดที่แล้วโดน จอร์เจีย ยิงมา 0-8

ผู้เล่น 11 คนแรก มาโน โพลกิง หัวหน้าโค้ชทีมชาติไทย วางระบบ 4-3-3 ผู้รักษาประตู กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล, เซ็นเตอร์แบ๊ก เอเลียส ดอเลาะ, จักพัน ไพรสุวรรณ, แบ๊กขวา ทริสตอง โด, แบ๊กซ้าย จักรกฤษ ลาภตระกูล, กองกลาง กฤษดา กาแมน(กัปตันทีม), พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, ริมเส้น ขวา ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว, ซ้าย บดินทร์ ผาลา และกองหน้า ยศกร บูรพา ส่วน เอสโตเนีย เฮนรี อาร์นิเยร์ อดีตกองหน้าเมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นตัวสำรอง

เกมครึ่งแรก ทีมชาติไทย ต่อกรได้สนุก มีโอกาสทำเกมรุกได้เยอะ นาทีที่ 14 ทริสตอง โด เติมขึ้นถึงกรอบเขตโทษ ตบด้วยขวา ยิงซ้ายติดเซฟ นาทีที่ 39 พิธิวัตต์ แทงให้ กฤษดา ที่วันนี้มาเล่นกองกลาง เปิดจากสุดเส้นหลังบอลขลุกขลิก เข้าทาง พิธิวัตต์ ยิงติดบล็อก ชุดนี้ไทยกดได้ต่อเนื่อง แต่ก็เกือบเสีย จากจังหวะสวนกลับ โอจามา เฮนริก ได้ลากจี้จากกลางสนาม เข้าเขตโทษ โยกหลบ กฤษดา แต่ยิงด้วยขวาออกไป จบครึ่งแรก 0-0

ครึ่งหลังเปิดมาไม่นาน เอสโตเนีย เกือบนำ คาอิต มาเตอัส หลอกยิงเสาแรกชนเสา จากนั้น เอสโตเนีย ที่ส่ง อานิเยร์ ลงมา กดดันไทยได้ แต่ ช้างศึก ยืนซดหมัดดุเดือด มีโอกาสยิงด้วย นาทีที่ 68 พิธิวัตต์ แทงให้ กฤษดา ที่แล่บขึ้นมาเหมือนเดิม ยิงมุมแคบติดเซฟ

กระทั่งนาทีที่ 71 เอสโตเนีย ก็ได้ประตูนำ 1-0 เวตคาล มาร์ติน ลากตัดจากขวาเข้าใน แล้วแทงให้ เฮนรี อาร์นิเยร์ อดีตกองหน้าเมืองทอง จิ้มจังหวะเดียว สวนตัว กัมพล เข้าไป

ไทย ไม่ยอมแพ้ จะเอาคืน นาทีที่ 75 พิชา อุทรา ยิงนอกกรอบเขตโทษ โดนปัดทิ้ง เป็นเตะมุม ซึ่งจากจังหวะเตะมุมนี้เอง บอลเลยมาถึง บดินทร์ ผาลา ยึกยักหลอก 1 จังหวะ ก่อนหยอดย้อนไปหน้าประตู จักพัน ไพรสุวรรณ พุ่งเข้าโขกเต็มหัว ไทยตีเสมอ 1-1

จากนั้นไม่มีใครยิงกันได้เพิ่ม จบเกม ไทย บุกเสมอ เอสโตเนีย 1-1

สำหรับโปรแกรมต่อไป ทีมชาติไทย จะลงสนามฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก รอบ 2 วันที่ 16 พ.ย.เปิดราชมังคลากีฬาสถาน พบ จีน และวันที่ 21 พ.ย. เยือนสิงคโปร์