สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ว่า รัฐบาลนิวเดลีของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ผู้นำอินเดีย คัดค้านความเคลื่อนไหวของการประมวลกฎหมายความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกัน ในช่วง 5 ปี นับตั้งแต่ศาลฎีกายกเลิกกฎหมายห้ามมีความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกัน ในยุคอาณานิคม

แม้ทนายความของคู่รักเพศเดียวกันหลายคู่ เรียกร้องให้ศาลรับรองความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกัน เป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างเต็มรูปแบบ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ผู้พิพากษาทั้งห้าคนตัดสินว่า การขยายความเสมอภาคในการสมรส อยู่ภายใต้ขอบเขตการตัดสินใจของรัฐสภา และสภานิติบัญญัติของประเทศ

ทั้งนี้ คำตัดสินของศาลฎีกาอินเดียระบุว่า สิทธิขั้นพื้นฐานในการแต่งงานของคู่รักเพศเดียวกัน ไม่ได้รับการรับรองโดยรัฐธรรมนูญของอินเดีย ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่

ขณะที่นายธนัญชยะ วาย จันทรจูฑ ประธานศาลฎีกาอินเดีย กล่าวเสริมว่า อินเดียยังคงมีหน้าที่ต้องยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกัน และปกป้องผู้มีความสัมพันธ์เหล่านั้น จากการเลือกปฏิบัติ

อย่างไรก็ตาม คำพิพากษาดังกล่าว ทำให้ฝูงชนที่มารวมตัวนอกศาลฎีกา รู้สึกเสียใจและผิดหวัง เพราะพวกเขาต่างหวังว่า อินเดียจะเป็นชาติที่ 2 ในเอเชีย ซึ่งรับรองการสมรสเพศเดียวกันตามกฎหมาย ต่อจากไต้หวัน อีกทั้งยังมีบางคนที่รู้สึกท้อแท้ และมองว่าตราบใดที่พรรคภารติยะ ชนตะ (บีเจพี) ยังอยู่ในอำนาจ การรับรองการสมรสเพศเดียวกันอย่างเป็นทางการ คงไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้

อนึ่ง กระแสการยอมรับคู่รักเพศเดียวกันในอินเดีย เกิดขึ้นหลังศาลฎีกาอินเดีย ดำเนินการตัดสินครั้งสำคัญในปี 2561 ซึ่งยกเลิกกฎหมายในยุคอาณานิยม ที่กำหนดให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันเป็นความผิดทางอาญา รวมถึงการตัดสินให้คู่รักที่ยังไม่ได้แต่งงาน หรือคู่รักเพศเดียวกัน มีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่าง ๆ

แต่บรรดาผู้นำจากศาสนาหลักทุกศาสนาของอินเดีย ได้แก่ ฮินดู, มุสลิม, เชน, ซิกข์ และคริสต์ ต่างต่อต้านความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกัน โดยมีหลายคนยืนกรานว่า การสมรสมีไว้เพื่อ “การให้กำเนิด” ไม่ใช่เพื่อ “การเสพสุข”.

เครดิตภาพ : AFP