สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ว่า คำตัดสินดังกล่าวขยายขอบเขตของการสะกดรอยตาม โดยกำหนดให้การคุกคามจากการสะกดรอยตาม ถือเป็นความผิดทางอาญาเป็นครั้งแรก ในประวัติศาสตร์การพิจารณาคดีของเกาหลีใต้
ในการพิจารณาคดีเมื่อเดือน ก.ย. ซึ่งมีการเปิดเผยคำตัดสินเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ศาลฎีกาเกาหลีใต้พิพากษา ลงโทษจำคุกชายคนหนึ่งเป็นเวลา 10 เดือน ในข้อหาสะกดรอยตามอดีตภรรยาของเขา ซึ่งยุติความสัมพันธ์ระหว่างกันในปี 2560 และทั้งคู่มีบุตรด้วยกัน 4 คน
The South Korea Supreme Court has recently ruled that a stalker's actions that seemingly did not irritate the victim but were repeated should be considered as harassment if they came along with an instance of stalking.https://t.co/lS77SUqhyy
— The Korea Herald 코리아헤럴드 (@TheKoreaHerald) October 20, 2023
ชายคนนี้ไปหาอดีตภรรยาที่บ้านของเธอถึง 6 ครั้ง ตั้งแต่เดือน ต.ค.-พ.ย. ปีที่แล้ว ซึ่งเขาถูกฝ่ายหญิงกล่าวหาว่าสะกดรอยตาม ทั้งที่อดีตสามีของเธอได้รับคำสั่งห้ามกระทำการชั่วคราว แม้ระยะเวลาของคำสั่งข้างต้นจะไม่เป็นที่แน่ชัดก็ตาม
อนึ่ง ทนายความเป็นตัวแทนของฝ่ายชาย ยอมรับว่ามีความรุนแรงเกิดขึ้น 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเป็นการตะโกนร้องและทุบประตูหน้าบ้านของอดีตภรรยา ส่วนอีกครั้งหนึ่งคือ การนอนอยู่หน้าบ้าน
แต่ทนายโต้แย้งว่า สำหรับรายงาน 4 ครั้งที่เหลือ ซึ่งรวมถึงการยืนอยู่หน้าบ้านกับฝ่ายหญิง เพื่อรอให้บุตรออกมา และการขอบุตรให้เขาเข้าไปในบ้านในขณะที่อดีตภรรยาไม่อยู่ ควรถูกมองว่า “ทำให้เกิดอันตราย” ไม่ใช่ “การคุกคาม” เนื่องจากไม่มีการสะกดรอยตามเกิดขึ้นจริง ด้วยเหตุนี้ ฝ่ายจำเลยจึงระบุว่า ศาลควรรับพิจารณาข้อหาสะกดรอยตามแค่ 2 กระทงเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ศาลฎีกาเกาหลีใต้ตัดสินว่า ทั้งหกคดีควรถือเป็นการคุกคามทั้งหมด เพราะถึงแม้บางคดีจะดูไม่เป็นอันตราย แต่มันสามารถเพิ่มความกลัว และความวิตกกังวลของเหยื่อได้.
เครดิตภาพ : AFP