สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ว่า ความรุนแรงในภูมิภาคที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ซึ่งปะทุขึ้นท่ามกลางสงครามอิสราเอล-ฮามาส ในฉนวนกาซา ทำให้อิสราเอลเรียกร้องรัสเซีย ให้ปกป้องพลเมืองชาวอิสราเอลและชาวยิว โดยนายเซอร์เก เมลิคอฟ ผู้ว่าการสาธารณรัฐดาเกสถาน ให้คำมั่นว่า จะลงโทษผู้ที่มีส่วนกับเหตุการณ์ความวุ่นวายนี้

คลิปวิดีโอที่โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ และรายงานจากสื่อของรัสเซีย ปรากฏภาพกลุ่มผู้ประท้วงหลายสิบคน ตะโกนสรรเสริญพระเจ้า พร้อมกับพังประตูและสิ่งกีดขวาง โดยมีบางคนถือป้ายต่อต้านชาวอิสราเอล ขณะที่บางส่วนวิ่งขึ้นไปบนรันเวย์

หลังจากนั้นไม่นาน สำนักงานการบินพลเรือนรัสเซีย (โรซาเวียตเซีย) ได้ประกาศปิดสนามบิน และระงับบริการเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออก ก่อนที่กองกำลังรักษาความปลอดภัยจะมาถึงจุดเกิดเหตุ และควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ อย่างไรก็ตาม โรซาเวียตเซีย ระบุหลังเหตุความวุ่นวายสงบลงว่า สนามบินจะปิดทำการจนถึงวันที่ 6 พ.ย.

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นายอัคห์เหม็ด ดูดาเยฟ รมว.สารสนเทศของสาธารณรัฐเชชเนีย หรือเชเชน ซึ่งอยู่ติดกับสาธารณรัฐดาเกสถาน กล่าวเตือนบนเทเลแกรมเกี่ยวกับ “การยั่วยุ” และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น ในภูมิภาคคอเคซัส

ขณะเดียวกัน รัฐบาลของสาธารณรัฐดาเกสถาน โพสต์บนเทเลแกรม เรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง “หยุดการกระทำที่ผิดกฎหมาย” แม้พวกเขาจะโกรธเคืองต่อการสังหารหมู่พลเรือนชาวปาเลสไตน์ที่ไร้มนุษยธรรมก็ตาม รวมทั้งขอให้ประชาชนไม่คล้อยตาม การยั่วยุของกลุ่มที่ใช้ความรุนแรง และไม่สร้างความตื่นตระหนกในสังคม

ในเวลาต่อมา เมลิคอฟ โพสต์บนเทเลแกรมว่า ชาวดาเกสถานทุกคนเห็นอกเห็นใจกับความทุกข์ทรมานของเหยื่อ ซึ่งเกิดขึ้นจากการกระทำของผู้คนและนักการเมืองที่ไม่ชอบธรรม และภาวนาให้เกิดสันติภาพในปาเลสไตน์ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สนามบิน ถือเป็นสิ่งที่เลวร้าย และควรได้รับการประเมินที่เหมาะสม จากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย.

เครดิตภาพ : AFP